Home Feature ‘เจ้าอาวาสผีพนัน’ อมเงินวัด 300 ล.ปั่น ‘บาคารา’ เตือนสติ รบ.เปิดบ่อนกาสิโน!

‘เจ้าอาวาสผีพนัน’ อมเงินวัด 300 ล.ปั่น ‘บาคารา’ เตือนสติ รบ.เปิดบ่อนกาสิโน!

by admin

“เครือข่ายต้านพนัน-นักข่าวอาวุโส” ออกโรงขย่มรัฐบาลอุ๊งอิ๊ง เร่งทบทวนล้มบ่อนกาสิโนถูกกฎหมาย ยกเคส “เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง” ยักยอกเงินวัด 300 ล้าน ประเคนบ่อนพนันออนไลน์ เตือนสติรัฐบาล! ก่อนอาสาเป็น “เจ้ามือรับแทงพนัน” เผยเส้นทาง “เจ้าคุณแย้ม” ติดพนันงอมแงม โยกเงินวัดเสี่ยงแทงบาคาราเกลี้ยง แถมออกอุบายยืมเงินพระกัลยาณมิตรที่สนิทสนมหลักแสนหลักล้าน จนเป็นหนี้ล้นพ้น ล่าสุดศาลฯ ออกหมายจับย่องมอบตัวตำรวจแล้ว

กลายเป็นข่าวสั่นสะเทือนวงการสงฆ์ไทย เมื่อพระสังฆาธิการ (เจ้าคุณแย้ม) พระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) อายุ 70 ปี เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จ.นครปฐม เจ้าคณะภาค 14 ถูกศาลออกหมายจับข้อหายักยอกเงินวัดจำนวน 300 ล้านบาท เพื่อนำไปเล่นการพนันออนไลน์ และได้ชิงเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ

เครือข่ายต้านการพนัน ซึ่งเดินหน้าคัดค้านรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ที่หมายมั่นปั้นมือ เสนอร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. …. โดยมีท่าทีเร่งรีบเสนอกฎหมายดังกล่าว ด้วยเหตุผลที่ว่าจะสามารถสร้างเม็ดเงินรายได้ให้กับประเทศ  โดยเปิดทางให้ “ซูเปอร์บอร์ด” ที่มีนายกรัฐมนตรีนั่งหัวโต๊ะเคาะได้ว่าบริษัทที่จะมาประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร จะมีสัดส่วนกรรมการที่ไม่มีสัญชาติไทยได้เท่าไหร่ ซึ่งอาจกำหนดให้มีกรรมการเป็นคนสัญชาติอื่นมากกว่าคนสัญชาติไทยก็ได้ ทั้งยังเปิดทางให้รัฐบาลสามารถยกเว้นกฎหมายอื่นๆ ให้กับผู้ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรได้อีก

นายณรงค์ หนูเชื้อ อดีตนายกสมาคมผู้สื่อข่าวพระพุทธศาสนา 3 สมัย ในฐานะนักข่าวอาวุโส เปิดเผย “เอซีเอ็น ออนไลน์” ว่า นโยบายรัฐบาลที่ต้องการผลักดัน พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือพูดกันตรงๆ ก็คือการ “เปิดบ่อนการพนัน” ถูกต้องตามกฎหมายนั้น เป็นเรื่องอัปมงคล ซึ่งจะส่งผลเสียหายต่อประเทศ ทำให้ประชาชนโดยเฉพาะเยาวชน เกิดความอ่อนแอ ในขณะที่รัฐบาลพยายามจะโต้แย้งเครือข่ายต้านการพนัน โดยพยายามเสนอแต่แง่มุมที่ดีมีประโยชน์มุ่งเน้นแต่การสร้างรายได้ให้กับประเทศ แต่รัฐบาลก็ไม่มีแผนใดเลยที่จะประกันได้ว่าจะไม่ทำให้สังคมไทยอยู่ในความลุ่มหลงกับธุรกิจพนัน ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลควรทบทวนอย่างรอบด้าน เพราะข่าวใหญ่วันนี้ ขนาดผู้นำทางจิตวิญญาณ พระเถระเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ยังติดบ่วงการพนันออนไลน์ ยักยอกเงินวัดไปเล่นพนันจำนวน 300 ล้านบาท รัฐบาลจะต้องพึงสำเหนียกเกี่ยวกับภัยคุกคามพนันออนไลน์ที่กำลังบ่อนทำลายประเทศไทยอย่างแสนสาหัสในขณะนี้ ไม่ใช่เสนอตัวเป็นเจ้าภาพ เป็น “นายบ่อน” เสียเอง

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 16 พ.ค.68 ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จ.นครปฐม เจ้าคณะภาค 14 พร้อมด้วยทนายความ และคณะพระผู้ติดตาม เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ,พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป. ,พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. เพื่อเข้ามอบตัวแสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังทราบเรื่องว่าตนเองกำลังจะถูกดำเนินคดีในความผิดฐานทุจริตยักยอกเงินวัดจำนวน 300 ล้านบาท

            สำหรับการเข้ามอบตัวของพระธรรมวชิรานุวัตร ครั้งนี้ สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. ได้รับเรื่องร้องเรียนว่า พระธรรมวชิรานุวัตร ซึ่งมีตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และ เป็นเจ้าคณะภาค 14 แต่กลับมีพฤติกรรมยักยอกเงินของวัดไปเล่นพนันออนไลน์ จึงจัดกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแส โดยส่งสายลับเข้าไปแฝงตัวอยู่ในวัดนานกว่า 8 เดือน “จนกระทั่งพิสูจน์ทราบแน่ชัดแล้วว่า พระธรรมวชิรานุวัตร มีพฤติกรรมตามที่ถูกร้องเรียนจริง”

โดยจากแนวทางสืบสวนพบว่า แผนประทุษกรรมของ พระธรรมวชิรานุวัตร นั้น จะเริ่มจากการให้คณะกรรมการวัด ทำการโอนเงินจากบัญชีธนาคารวัดไร่ขิง มายังบัญชีธนาคารส่วนตัว ก่อนจะโอนไปให้ หญิงสาวรายหนึ่ง ที่เป็นนายหน้าเครือข่ายเว็บพนัน นำไปโอนต่อเข้าบัญชีเว็บพนันออนไลน์ เพื่อเติมเครดิตสำหรับใช้เล่นพนันออนไลน์ จำพวก “บาคาร่า”

จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินบัญชีธนาคารของวัดไร่ขิง พบว่า เฉพาะแต่ห้วงเวลาปี 2564 จนถึงปัจจุบัน มียอดเงินจากบัญชีธนาคารของวัด ถูกโอนออกไปยังบัญชีธนาคารส่วนตัวของพระธรรมวชิรานุวัตรจำนวนหลายครั้ง รวมยอดเงินกว่า 300 ล้านบาท

ขณะที่การตรวจสอบความเส้นทางการเงินเพื่อสืบหาความเชื่อมโยงหรือความสัมพันธ์ ระหว่าง บัญชีธนาคารของพระธรรมวชิรานุวัตร กับ บัญชีเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ต่างๆ พบว่ามีการยอดเงินทั้งได้และเสีย จากการเล่นพนันหมุนเวียนเข้าออกรวมกันไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังสืบทราบข้อมูลอีกว่า ภายหลังยอดเงินในบัญชีธนาคารของวัดไร่ขิง เริ่มมีจำนวนน้อยลง พระธรรมวชิรานุวัตร จึงเริ่มหันไปยืมเงินพระผู้ใหญ่วัดอื่น ๆ ที่สนิทสนมกัน เพื่อนำมาเล่นพนัน โดยยอดเงินที่ขอยืมนั้นมีตั้งแต่หลักแสนบาทไปจนถึงหลักล้านบาทต่อครั้ง

ขณะที่ในส่วนของหญิงสาวที่เป็นนายหน้ารับแทงพนันจากเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงนั้น จากข้อมูลสืบสวน พบว่ามีส่วนสำคัญและเกี่ยวข้องกับการยักยอกเงินวัดไร่ขิงของพระธรรมวชิรานุวัตร เป็นอย่างมาก เนื่องจากทำหน้าที่เปรียบเหมือนนายหน้าหรือตัวแทนเว็บพนันออนไลน์ คอยรับเดิมพันแทงพนันจากพระธรรมวชิรานุวัตร

อีกทั้งจากการตรวจสอบเชิงลึกของเจ้าหน้าที่ยังพบว่า หญิงสาวคนดังกล่าวยังถือเป็นฟันเฟืองหรือกลไกสำคัญคนหนึ่งในแวดวงเครือข่ายธุรกิจเว็บพนันออนไลน์ คอยทำหน้าที่เป็นเจ้าของบัญชีธนาคารและดูแลเส้นทางการเงินให้กับเว็บพนันออนไลน์ต่างๆ และเมื่อช่วงปลายปี 2567 ที่ผ่านมา ตัวหญิงสาวคนดังกล่าวว่าเองก็เพิ่งจะถูกกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) จับกุมดำเนินคดี หลังเข้าไปมีส่วนพัวพันกับเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ “LAGALAXY911” ก่อนจะได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว หรือ ประกันตัวออกมาสู้คดี

ทั้งนี้ สำหรับวัดไร่ขิง พระอารามหลวง ถือเป็นวัดใหญ่เก่าแก่ วัดมีประวัติก่อตั้งอยู่คู่บ้านคู่เมือง เป็นศูนย์รวม หรือ ที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวบ้าน จ.นครปฐม มาช้านาน ปัจจุบันยังถือเป็นอีก 1 สถานที่ ที่มีนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติ เข้ามากราบไหว้สักการะขอพรอย่างเนืองแน่นสม่ำเสมอ

Related Articles