สยบข่าวหนี!!! อดีตนายกฯ “ทักษิณ” กร้าว! ยาเสพติดคือภัยคุกคาม เล็งประกาศสงครามเขย่า “ว้าแดง” จี้เลิกผลิตยานรก เผย 1-2 เดือน เตรียมส่ง “รมว.ต่างประเทศ” เคลียร์เพื่อนบ้าน ลั่น “ถ้าคุณยังผลิต คุณคือศัตรูของประเทศไทย” ติง จนท.รัฐ อย่าแกล้งหูทวนลม ปล่อยพ่อค้ารายใหญ่หลบหนีไปอยู่ข้างบ้านหมด แถมยังมีเครือข่ายในไทยอีกเพียบ แนะหน่วยงานผนึกกำลังลุยปราบยาเสพติด ชี้อย่าทำงานแบบไฟไหม้ฟาง ชงตั้งศูนย์บำบัดทุกอำเภอ ชี้โพรงรัฐบาลดึงงบ “ดิจิทัลวอลเล็ต” 1.57 แสนล้านมาใช้ เชื่อ ปชช.ไม่โกรธ ขันอาสานายกฯ ไปเดินเล่น ตจว. เสาะหาบ้านพ่อค้ายา แล้วจะกลับมาฟ้อง มท.1 ไปจัดการ
เมื่อวันที่ 27 พ.ค.68 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปรากฏตัวครั้งแรกภายหลังมีข่าวลือว่าเดินทางออกนอกประเทศ ก่อนศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนคดีพักรักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ
สำหรับวันนี้ นายทักษิณเดินทางไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) โดยนายทักษิณได้โบกมือทักทายผู้สื่อข่าวและกล่าวว่า “ยังอยู่ดีกินดี ไม่ได้ไปไหน” จากนั้นผู้บริหารสำนักงาน ป.ป.ส.ได้เชิญนายทักษิณเข้าห้องรับรอง ก่อนขึ้นปาฐกถาพิเศษฯ ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรีและที่ปรึกษาประธานอาเซียน
โดยมีรัฐมนตรี อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม, นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข, พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม รวมไปถึง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ,พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) และข้าราชการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมฟังวิสัยทัศน์ของนายทักษิณอย่างคับคั่ง พร้อมมีการประชุมทางไกลผ่านวิดีโอคอนเฟเรนซ์

นายทักษิณ ปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “ยาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติ มุมมองและความท้าทายต่อการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน” ตอนหนึ่งว่า ยาเสพติดเป็นภัยคุกคามปัจจุบันและอนาคต คือทำลายลูกหลานเรา เยาวชนเรากำลังถูกทำลาย ไม่มีอะไรเกินมือ และสมองเรา วันนี้ต่างคนต่างทำงานไปเรื่อยๆ ไม่สำเร็จขาดการบูรณาการที่มีทิศทางที่ชัดเจน ตนดีใจที่ได้รับเชิญ ความจริงอึดอัดอยากพูดเรื่องนี้มานาน ชาวบ้านบอกเศรษฐกิจวันนี้รอได้ แต่ยาเสพติดรอไม่ไหวแล้ว เดือดร้อนไปหมดแล้ว นอนผวากันหมด
นายทักษิณ กล่าวต่อว่า สมัยก่อนพ่อค้ารายใหญ่อยู่ในประเทศไทย การผลิตอยู่ต่างประเทศครึ่งหนึ่ง ไทยครึ่งหนึ่ง แต่วันนี้การผลิตแทบจะ 100% อยู่ที่ว้าแดง รู้จุดแล้วแปลว่าเฉยไม่ได้ พ่อค้ารายใหญ่หลบหนีไปอยู่ข้างบ้านหมด แต่ก็ยังมีเครือข่ายในประเทศไทย เจ้าหน้าที่แกล้งไม่รู้เรื่องหรือไม่อยากรู้เรื่อง วันนี้การแก้ปัญหาต้องประยุกต์จากของเก่ากลับมาเป็นเรื่องใหม่ ทุกหน่วยงานต้องมีใจ เพราะอันตรายเหล่านี้กำลังมาถึงลูกหลานเรา
“ตลาดยาเสพติดใหญ่ที่สุดในเพื่อนบ้านคือประเทศไทย เพราะมีตังค์ที่สุด ตอนนี้มีหน่วยงานที่จัดการยาเสพติด 29 หน่วย ไม่รู้ว่ามากไป เพราะความหอมหวานของงบประมาณหรือไม่”
ยาเสพติดเข้าประเทศไทยตรงๆ มาทางเรือ ด้วยคอนเทนเนอร์ ศุลกากรวันนี้มีตู้เข้ามา 6 ล้านตู้ เครื่องเอ็กซเรย์มีไม่พอ เอ็กซเรย์ไม่หมด เปิดตู้บ้าง ไม่เปิดตู้บ้าง ตั้งใจไม่เปิดตู้ก็มี ไม่รู้ คาเฟอีนลงเรือที่เขมร มาที่แหลมฉบัง วันนี้ที่เราแย่สู้ประเทศอื่นไม่ได้ ถอยลง เพราะระบบราชการเราถูกวางไว้ต่างคนต่างทำ ขาดเจ้าภาพและวัดเคพีไอ วันนี้ต้องกลับมาเข้ามาสู่ยุคการบริหารแบบการบริหารองค์กร ที่ผ่านมาเราไม่ได้บริหาร แต่เราทำธุรกรรม คือทำให้เสร็จไปวันๆ ไม่มียุทธศาสตร์ ไม่มีเป้าหมาย
ทั้นี้ แหล่งผลิตอยู่ในว้าแดง เขตติดต่อสามเหลี่ยมทองคำ รัฐฉาน วันนี้ตนมีความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านค่อนข้างดี เพราะเป็นคนแก่ที่ยังมีชีวิตอยู่ จึงพยายามไล่ตามความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านให้เกิดประโยชน์ แต่บังเอิญไปไหนไม่ค่อยได้ ดังนั้นถึงเวลาที่เราจะต้องขอความร่วมมืออย่างจริงจังกับประเทศเพื่อนบ้าน แหล่งผลิตถ้าเมียนมาบอกว่าจัดการไม่ได้ เพราะเป็นชนกลุ่มน้อย เราคงต้องขอจัดการเอง เพราะมันเป็นศัตรูของเรา มันอยู่ในพื้นที่ไหน ถ้าเขาจัดการไม่ได้ เราต้องขออนุญาต วิธีจัดการของเราก็มีวิธี ที่สากลรับได้ และต้องจัดการเรื่องแหล่งผลิต
“คิดว่าอีกไม่กี่เดือน 1-2 เดือนนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะต้องไปพบปะกับเพื่อนบ้านทั้งหมด เพื่อผนึกกำลังกันให้ว้าแดง เลิกผลิตยาเสพติด ถ้าคุณยังผลิต คุณคือศัตรูของประเทศไทย เราไม่ควรมีความปราณีกับศัตรู นี่เป็นสิ่งที่ตนคิดว่ารัฐบาลจะต้องมีความชัดเจนต้องเกิดขึ้น”

ความร่วมมือของส่วนราชการสำคัญมาก สมัยก่อนตนให้เอ็กซเรย์ทุกตารางนิ้วของประเทศไทย สำคัญที่สุด ตำรวจและปกครอง จะต้องเป็นปาท่องโก๋ ต้องไปด้วยกัน จับมือกัน ต้องรักกัน ต่างคนต่างทำไม่ได้
อดีตนายกฯ กล่าวอีกว่า ที่สำคัญวันนี้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ซึ่งมีทุกพื้นที่ โดยมี 3 ส่วน หนึ่งคือกำลังของ กอ.รมน. ส่วนที่สองคือกำลังของการช่วยราชการ และส่วนที่สามคือตามตำแหน่งงาน ซึ่งมีงบประมาณอยู่ปีละ 7,000 กว่าล้าน เอาไปใช้งานภาคใต้ 3,000 กว่าล้าน อีก 4,000 กว่าล้านใช้ทั่วไป
โดยตนมองว่าเที่ยวนี้จะเป็นการพิสูจน์ เพราะมีคนบอกให้ยุบ กอ.รมน.ทิ้ง แต่ตนก็ยังไม่เชื่อว่าจะยุบหรือไม่ยุบดี ดังนั้น กอ.รมน.จะเป็นคนคิดเองว่าควรจะยุบหรือไม่ และในพื้นที่ภาคใต้และงานยาเสพติด กอ.รมน.ก็จะต้องมีบทบาทอย่างเข้มแข็ง เด็ดขาดไม่เช่นนั้นคนก็จะฟ้องอีกว่าช่วยยุบเถอะ เพราะเสียดาย 7,000 กว่าล้าน
“วันนี้จึงอยากฝากว่างบประมาณ 157,000 ล้านบาทที่คิดว่าจะเอาไปทำอะไรนั้น เห็นว่าส่วนหนึ่งหากนำไปจัดการเรื่องปัญหายาเสพติดให้เด็ดขาดภายในสิ้นปี 2568 นี้”
เชื่อว่าประชาชนจะไม่โกรธ เรื่องการเลื่อนดิจิทัลวอลเล็ตออกไป พร้อมเสนอแนะควรตั้งศูนย์บำบัดในแต่ละอำเภอ หรือตั้งในอำเภอที่มีความสมัครใจ จะทำให้การบำบัดผู้ติดยาเสพติดสามารถแก้ไขปัญหาได้ แต่การบำบัดก็ไม่เพียงพอจะต้องคลีนชุมชนให้ได้ด้วย
นายทักษิณ ยังหยิบยกกรณีในสมัยก่อนสิ่งใดทำดีทำถูกต้องจะมีการให้รางวัล เช่น ค่านำจับ ขณะนั้นเศรษฐกิจดี แต่ปัจจุบันเป็นหนี้เยอะ เสนอให้จัดทำนีวอร์ดควบคู่กับการแก้ไขปัญหายาเสพติดเชื่อว่าสามารถเอาอยู่ แล้ววันนี้คิดว่า ผบ.ตร. และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยต้องออกไปกินข้าวกันบ่อยขึ้นเพื่อวางแผนว่าจะทำอย่างไรให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และตำรวจทำงานร่วมกัน ซึ่งหากตรงไหนไม่ถูกกันก็ให้เปลี่ยนที่อยู่ เพื่อให้เกิดการทำงานอย่างสามัคคี ซึ่งจังหวะดังกล่าวนั้น นายอนุทินได้หันไปยิ้มและพยักหน้ากับ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ
ขณะเดียวกันตนก็เป็นห่วงกระทรวงศึกษาธิการ เพราะการให้การศึกษาความรู้กับเด็กเยาวชนเป็นเรื่องสำคัญ เพราะต้องมีการปลูกฝังตั้งแต่ชั้นอนุบาล ส่วนกระทรวงสาธารณสุขต้องเน้นเรื่องการบำบัดให้เต็มที่ ดังนั้น จะต้องให้การศึกษาเด็กควบคู่กับการบำบัด
นายทักษิณ ยังหยิบยกการซีลชายแดนที่ต้องขอความร่วมมือจากทหารและ รมว.กลาโหม ในการสกัดช่องทางขนส่งยาเสพติดทางธรรมชาติ ชี้ว่าชายแดนเป็นปัญหาหนึ่งของการค้ายา ค้าอาวุธ ปัญหาค้ามนุษย์ คอลเซ็นเตอร์ ขนสินค้าจากเพื่อนบ้าน วันนี้เรื่องของชายแดนต้องขอตำรวจชายแดน ทหาร และกรมศุลกากรต้องเอาจริงเอาจัง อย่าเข้าสุภาษิต “เข้าเกียร์ว่าง..ได้ตังค์ใช้” และฝากไปยังหัวหน้าส่วนราชการทุกคนขอให้จริงจังกับการแก้ไขปัญหา

นายทักษิณ ย้ำอีกว่า การปราบปรามยาเสพติดครั้งนี้ ต้องไม่ใช่ไฟไหม้ฟางแต่จะต้องทำต่อเนื่อง อย่าให้มีพ่อค้ายาเสพติดเหลืออยู่ในชุมชนให้ประกาศใครยุ่งกับยาเสพติด อย่าไปญาติดีด้วย จะต้องมีการสกัดทุกทาง วันนี้ถ้าใครยุ่งกับยาเสพติดคือศัตรูของประเทศไทย ขณะที่วันนี้ว้าแดงรวยมากและมีเครื่องมือทุกอย่าง ที่เราจับได้เยอะเพราะเราเข้มแข็งขึ้น และที่เขามีการผลิตเยอะขึ้น เพราะเขาซื้อเครื่องมือมาจากจีนซึ่งเป็นของดีหมด วันนี้เรากลับจีนต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง สกัดกั้นให้ได้ เพราะถือว่านี่คือศัตรูของประเทศไทย
วันนี้สิ่งที่ตนยังสงสัย คือเรื่องของการติดตามเครือข่าย ที่หลบหนีออกไปนอกประเทศ แต่ยังมีการติดต่อกับผู้ค้ารายย่อยในประเทศ ว่ามีข้อมูลในส่วนนี้อยู่ และจะต้องไล่บี้ให้ถึงที่สุด ตนเชื่อว่าตำรวจไทยทำได้ และตำรวจไทยจะต้องได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงมหาดไทย ท่านปลัดต้องไปขอไม้แขวนเสื้อมาไว้ซัก 10 ไม้ ใครไม่ทำงานก็ให้มาอยู่ในไม้แขวนเสื้อ รับรองขึ้นหมดภายในไม่กี่วัน
“ตอนที่ผมอยู่นั้น ผมจะถามว่าทำได้หรือไม่ถ้าทำไม่ได้จะให้คนอื่นมาทำแทน ถ้าเขารู้ว่าเราจริงจัง เขาจะจริงจังตาม ผมจะรับอาสานายกฯ อิ๊งค์ ไปเยี่ยมชาวบ้าน ที่ไหนมาฟ้องตนว่าตรงไหนไม่ดี ผมจะฟ้องปลัดมหาดไทยต่อ” นายทักษิณ กล่าว