“สรวงศ์” ย้ำปรับ ครม.เป็นอำนาจนายกฯ แต่ไม่ใช่สัปดาห์นี้ ไม่เม้ม! สมาชิกพรรคบ่นอยากได้ “มหาดไทย-เกษตรฯ” ไปดูเอง อ้างเป็นเรื่องกระแส-เร่งทำตามนโยบาย ชี้รอยร้าว “แดง-น้ำเงิน” แค่เห็นไม่ตรงกัน เป็นเรื่องธรรมดา แย้ม “อุ๊งอิ๊ง” นัดดินเนอร์เร็วๆ นี้ ปรับจูนความคิด เชื่อ “ภูมิใจไทย” ไม่ถอนตัวแน่ “อนุทิน” ลั่นถ้าจะปรับหรือสลับโควต้า ฟังแค่นายกฯ คนเดียวหลัง “ทักษิณ” กระสันให้ “เพื่อไทย” ไปคุม “คลองหลอด” ลือหึ่ง! “ประเสริฐ” เต็ง 1 เสียบเก้าอี้ มท.1
นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัปดาห์นี้ ว่า เรื่องนี้เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ตนไม่ทราบ
เมื่อถามว่า สัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวการระหองระแหงของพรรคภูมิใจไทย และพรรคเพื่อไทย คิดว่าถึงเวลาที่จะปรับ ครม.หรือยัง นายสรวงศ์ กล่าวว่า จริงๆ คำว่าระหองระแหงก็มีมาตั้งแต่ตอนพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ แล้ว ไม่น่าจะมีอะไร ซึ่งเราก็รู้อยู่แล้วว่าไม่มีอะไร อย่างที่นายกฯ เคยบอกไว้ว่าพรรคร่วมรัฐบาลมีความเห็นไม่ตรงกันมันมีได้อยู่แล้ว ขนาดพรรคเดียวกันยังมีความเห็นไม่ตรงกันมีเยอะแยะ เพราะฉะนั้นเป็นเรื่องปกติของการเมืองของคนที่อยู่ร่วมกัน แต่เรื่องของการปรับ ครม.ขอให้เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ ตามข่าวที่ออกมา บอกว่าจะปรับ ครม.สัปดาห์นี้ คิดว่าเป็นไปได้หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า สัปดาห์นี้เลยหรอ คิดว่าน่าจะยังไม่ใช่สัปดาห์นี้ เพราะสัปดาห์นี้รัฐบาลและประชาชนให้ความสำคัญในวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระราชินีฯ และนายกฯ เองก็ยังไม่ได้พูดอะไร ยังอยากจะทำงานร่วมกันอย่างนี้ต่อไปก่อน แต่ตรงนี้ตนก็ไม่ทราบ นายกฯ อาจจะมีคิดหรือวางตัวอะไรไว้แล้ว แต่ตนไม่ทราบเรื่องนี้จริงๆ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตามข่าวที่ออกมาว่าพรรคเพื่อไทยต้องการที่จะเอากระทรวงมหาดไทยมาอยู่ในการดูแลของตัวเอง นายสรวงศ์ กล่าวว่า ความจริงมันก็มีบ้างที่สมาชิกจะบ่นกันว่าอยากได้กระทรวงหลักๆ กลับมา ทั้งกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งจริงๆ แล้ว เราก็อยากได้กระทรวงหลักๆ กลับมา เพราะมันเป็นเรื่องของกระแส เรื่องของการทำนโยบายของเราด้วย แต่ทั้งหมดก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะนายกฯ ได้วางตัวคนทำงานอยู่แล้ว ไม่ได้มีปัญหา
ส่วนที่มีข่าวออกมาตอนนี้ว่าต้องการกระทรวงมาไทย มาดูแลเอง เพราะต้องเตรียมการสำหรับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในอีก 2 ปีข้างหน้านี้หรือไม่ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จริงๆ ไม่ใช่คาดหวังแค่การเลือกตั้งอย่างเดียว แต่นโยบายของเราหลายๆ อย่างมันต้องใช้หลายกระทรวงหลักๆ ที่จะต้องช่วยกัน อย่างที่บอกเราเป็นรัฐบาลผสมจริงๆ ครั้งแรก เพราะที่ผ่านมาตอนเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลก็เป็นรัฐบาลพรรคใหญ่พรรคเดียว และมีพรรคเล็กๆ เข้ามาร่วมแค่นั้น แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เป็นรัฐบาลผสมจริงๆ เพราะฉะนั้นการผลักดันนโยบายต่างๆ ซึ่งไม่ใช่ว่าพรรคร่วมรัฐบาลไม่ตอบสนอง แต่การขับเคลื่อนมันไม่เหมือนกับการที่จะอยู่ในพรรคเดียวกัน
จากการที่มีกระแสข่าวจะดึงกระทรวงมหาดไทยกลับไปเลย ทำให้มีข่าวออกมาว่าพรรคภูมิใจไทยอาจจะชิงแยกตัวออกมาจากรัฐบาลก่อน จนมีข่าวปรับ ครม.ออกมาในสัปดาห์นี้ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ถ้าเป็นเรื่องของการทำงาน ไม่ได้มีปัญหาอะไร เมื่อถามว่า ถ้าภูมิใจไทยออกไปจริงๆ รัฐบาลจะมีปัญหาในเรื่องของเสียงหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า “โอ้ย ผมว่าไม่น่าจะออกนะครับ เพราะถ้าจะออกจริง ก็น่าจะเป็นการโชว์ตั้งแต่โหวตร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ แล้ว คิดว่าน่าจะเป็นเพียงการพูดคุยกันมากกว่า”
ถามถึงสถานการณ์ของพรรคภูมิใจไทยและเพื่อไทย จะเป็นลักษณะของการยื้อกันไปกันมาแบบนี้จะไปได้ตลอดรอดฝั่งจนครบวาระอีก 2 ปีนี้หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า “เอาน่า แบบนี้แหล่ะ มันก็เป็นแบบนี้แหล่ะ รัฐบาลผสม คิดไม่เหมือนกันบ้าง ก็ว่ากันไป”
เมื่อถามว่า อย่างนี้พรรคร่วมรัฐบาลควรจะมีการนัดดินเนอร์กันอีกครั้งหนึ่งหรือไม่ เพื่อปรับจูนความคิดกันใหม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า เดี๋ยวจะมีใกล้ๆ นี้แหล่ะ เพราะที่ผ่านมาเราก็ติดในเรื่องของการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ คิดว่าเดี๋ยวนายกฯ คงจะเชิญพรรคร่วมรัฐบาลทานข้าวเร็วๆ นี้ แต่คงจะไม่ใช่ในสัปดาห์นี้
ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกระแสปรับ ครม. ตามที่พรรคเพื่อไทยจะให้นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ดิจิทัลฯ มาเป็น รมว.มหาดไทย แทนว่า ยังไม่มีการพูดเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี กับนายกรัฐมนตรี หรือนายทักษิณ ชินวัตร
ทั้งนี้ เมื่อนายกรัฐมนตรีบอกว่าไม่มีอะไร ก็ต้องเชื่อ จึงต้องไปถามนายกฯ ถึงความจำเป็นที่จะต้องมีการเปลี่ยนกระทรวง
“ขออย่าพึ่งพูดเดี๋ยวข้อความจะไม่เหมือนกัน แล้วกลายเป็นประเด็นขัดแย้ง ให้ฟังนายกฯ คนเดียว เพราะเป็นผู้มีอำนาจในการพิจารณาตัดสินในการปรับเปลี่ยนอะไรก็แล้วแต่”
นายอนุทิน กล่าวว่า ทำงานมา 2 ปีแล้ว การเข้าร่วมเป็นรัฐบาลก็มีข้อตกลงกันอยู่ตั้งแต่ดั้งเดิม ทุกคนก็ทำงานสนองนโยบายนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่นายเศรษฐา ทวีสิน มาจนถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ความสัมพันธ์ก็ดีไม่ได้มีปัญหาอะไร
ต่อข้อถามว่า หากจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนกระทรวงพรรคภูมิใจไทยอยากได้กระทรวงอะไร และจะใช้เงื่อนไขเดิมมาต่อรองหรือไม่นั้น นายอนุทิน ไม่ตอบคำถาม ย้ำเพียงว่า “นายกฯ บอกว่ายังไม่มีอะไร”
นายอนุทิน ยังกล่าวอีกว่า เมื่อวานนี้ (1 มิ.ย.) ลื่นล้มก้นจ้ำเบ้า ที่วัดพระแก้วในช่วงที่ฝนตก ซึ่งก็ใส่รองเท้าปกติ ทำให้ใส่แหวนที่ใส่ประจำไม่ได้ เพราะเจ็บนิ้วนาง มือบวมข้างซ้าย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ช่วงนี้คณะรัฐมนตรีเจ็บออดๆ แอดๆ นายอนุทินร้อง “ห๊า!!” แล้วก็หัวเราะ พร้อมกล่าวว่า “ไม่เป็นไรนิดๆ หน่อยๆ เดี๋ยวก็มีภูมิคุ้มกัน”