Home Feature นายกฯ ลั่น ‘ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด’ ยึดสันติวิธี-รักษาอธิปไตย

นายกฯ ลั่น ‘ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด’ ยึดสันติวิธี-รักษาอธิปไตย

by admin

“แพทองธาร” ลั่นยึดสันติวิธี-รักษาอธิปไตยไทย สางปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ฮึ่ม! เครื่องมือพร้อมรับปะทะ ปลุกคนไทยสามัคคีรวมกันเป็นหนึ่ง อย่าปล่อยเฟคนิวส์ ส่ง “บิ๊กอ้วน” ลงพื้นที่ดูให้ชัด ปมเขมรละเมิดข้อตกลงล้ำแดนไทย

วันนี้ (4 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก ว่า ได้เน้นย้ำเรื่องรวมกันเป็นหนึ่ง เพราะทุกวันนี้มีปัญหา และเป็นสิ่งสำคัญที่ประเทศไทยและคนไทยต้องรักกันสามัคคีกันและรวมกันให้ได้ เรื่องนี้ไม่ใช่การเมืองในประเทศที่ต้องแบ่งว่าฝ่ายรัฐบาลทำงานดีหรือไม่ดี ทหารทำอย่างนั้นอย่างนี้ แต่เป็นเรื่องที่ต้องช่วยกันและขอความช่วยเหลือจากทุกสื่อ คนที่เป็นผู้มีอิทธิพลทางความคิด ไม่ว่าจะเป็นคนกลุ่มมากหรือกลุ่มน้อย ต้องสื่อสารเรื่องนี้ว่าถึงเวลาที่มีปัญหาระหว่างประเทศ คนไทยต้องสามัคคีกัน ถึงจะมีแรงในการพูดคุยเจรจาและต่อสู้ ซึ่งต้องใช้ความเป็นหนึ่ง ความสามัคคี และความรักกันของคนในชาติเพื่อสนับสนุนกัน

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้แปลว่าพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง รัฐบาล ฝ่ายค้านและประชาชน ก็คือประเทศไทย จึงขอความร่วมมือการให้ความเห็นหรืออย่าปล่อยเฟคนิวส์ หากถามว่ารัฐบาลเคลื่อนไหวอย่างไร ยืนยันว่า ทำเรื่องนี้เต็มที่เพื่อรักษาอธิปไตยของเรา เป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นที่ต้องทำแน่นอน

นายกฯ ระบุว่า รัฐบาลและทหารได้คุยกันตลอดว่าจะไปทางไหนอย่างไร ต้องมั่นใจในความเป็นประเทศไทยและเพลงชาติของเราบอกไว้ว่า “ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด” เราเตรียมพร้อมรักษาความปลอดภัยของคนไทยทุกคน อาจมีคำถามว่าจะสงบสุขอย่างไร และคนที่อยู่ในพื้นที่ตรงนั้นสงบจริงหรือไม่ จะบอกว่าไม่ต้องสงสัย เราเตรียมเครื่องมือพร้อม หากปะทะขึ้นมาเราต้องพร้อมรับมือ ไม่ใช่ใช้สันติวิธีแล้วพอเกิดอะไรผิดพลาด แต่ไม่พร้อม อย่างนั้นไม่ได้ เราต้องพร้อมรับมือทุกรูปแบบ และเราเลือกสันติวิธี ไม่อยากให้ปะทะเสียเลือดเนื้อ ไม่ว่าจะเป็นคนของประเทศไหน ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น เรามีอุปกรณ์พร้อมเครื่องมือพร้อมและตอนนี้ยังพูดคุยได้ในทุกระดับ

น.ส.แพทองธาร กล่าวต่อว่า ช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม จะลงไปในพื้นที่เพื่อดูเหตุการณ์หน้างาน ก่อนจะมีการพูดคุยการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือ Joint Boundary Committee (JBC) ไทย-กัมพูชา วันที่ 14 มิ.ย. ที่จะคุยในรายละเอียด แต่ระหว่างนี้คนในชาติของเราต้องรักและเข้าใจกัน เพราะความร่วมมือสำคัญมาก บางครั้งรายละเอียดที่คุยกันไม่สามารถนำมาแถลงได้ทั้งหมด ขอให้ทุกคนเข้าใจตรงนี้

“อย่ามองเรื่องการเมือง ที่คนไม่สนับสนุนกันจะต้องต่อสู้กัน ไม่จำเป็น และไม่ใช่นาทีนี้ วันนี้คนไทยต้องรวมกันเพื่อปกป้องพื้นที่ของเราและคนไทยด้วยกันเอง ตรงนี้สำคัญ” นายกฯ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข้อสังเกตว่าปัญหาเรื่องนี้มีขบวนการสมรู้ร่วมคิดระหว่างฝ่ายไทยกับกัมพูชา น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ไม่คิดอย่างนั้น และคิดว่าไม่มีแบบนั้น

ถามย้ำว่านายกฯ จะชี้แจงกรณีที่โซเชียลโจมตีว่าตระกูลของนายกฯ ไปดองกับตระกูลของนายฮุน เซน ต่อประเด็นดังกล่าว น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ความสัมพันธ์ระดับผู้นำไม่เถียงว่าเราเป็นมิตรกัน และตอนที่เกิดเรื่องตนกับนายกกัมพูชาก็พูดคุยกันว่าเราจะถอย ไม่ใช้ความรุนแรงปะทะกัน ท่านให้ความร่วมมือในวันนั้น แต่ไม่นานพอมีเรื่องเกิดขึ้น ระดับนโยบายยังไม่ทราบ แต่หน้างานทราบแล้ว เขาก็จัดการกันหน้างาน ขอให้ทำความเข้าใจตรงนี้ด้วย

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องเสียหายที่จะมีเพื่อน สื่อที่ยืนข้างกันเป็นเพื่อนกันหรือไม่ ถามว่าถ้าวันหนึ่งเพื่อนทะเลาะกัน ไม่เข้าใจกัน จะปรับความเข้าใจกันหรือไม่ หรือถ้าเป็นเรื่องการค้าสามารถยกหูคุยกันได้ นั่นคือสิ่งที่ทำมาตลอดไม่เฉพาะกัมพูชา กับประเทศมาเลเซีย และประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศก็ทำเช่นเดียวกัน

“หากทะเลาะกันแล้วเพื่อนมาบอกว่าขอบ้านเธอได้ไหม คงไม่มีเพื่อนคนไหนบอกว่าให้บ้านก็ได้ คงไม่มีอย่างนั้น”

ส่วนกรณีที่นักวิชาการระบุว่าท่าทีของรัฐบาลดูนิ่ง ควรมียุทธศาสตร์เชิงรุก เช่น ปิดด่านชายแดนตอบโต้บ้าง นายกฯ กล่าวว่า เราดูเรื่องความสงบ ถ้าปิดด่านจะเกิดความรุนแรงขึ้นหรือไม่ จะเกิดโทษหรือกระทบอย่างไร เราศึกษาตลอดว่าหน้างานควรทำอย่างไร มีการคุยกันระหว่างรัฐบาลทหารและกระทรวงการต่างประเทศ ก่อนออกแถลงการณ์ของรัฐบาลไทยไปเมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ และเราพร้อมดูแลประชาชนในขณะเดียวกันก็พร้อมที่จะพูดคุยกับต่างประเทศด้วยสันติวิธี

ขณะเดียวกัน ท่าทีของสมเด็จฯ ฮุน เซน และฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ไม่สอดคล้องกับสภาพจริงของนายกฯ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เราต้องยึดของเรา และเตรียมพร้อมรับแน่นอน ถามว่าถ้าเขารุนแรงมาแล้วเรารุนแรงกลับ จะเกิดสันติวิธีหรือไม่ หากเลือกได้จะเลือกสันติวิธี และเวลานี้ยังเลือกได้ ต่อข้อถามกรณีทหารกัมพูชาล้ำเขตแดนไทยเข้ามา 200 เมตร ตามที่แม่ทัพภาค 2 ระบุ ซึ่งไม่เป็นไปตามข้อตกลง นายกฯ ตอบกลับทันทีว่า “ได้ลงไปดูหน้างานหรือยัง” เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า แต่ทางกัมพูชาล้ำพื้นที่มาแล้ว นายกฯ กล่าวว่า “ใช่ และวันนี้นายภูมิธรรม จะลงไปดู สื่อจะตามไปด้วยก็ได้”

Related Articles