ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่า ทีมงานของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน อาจสมรู้ร่วมคิดปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพของไบเดนจากสาธารณชน รวมถึงตรวจสอบการใช้ปากกาอัตโนมัติ (autopen) ในการลงนามเอกสารฝ่ายบริหารระหว่างไบเดนดำรงตำแหน่ง
คำสั่งดังกล่าว ระบุให้ที่ปรึกษาทางกฎหมายของประธานาธิบดีดำเนินการสอบสวนร่วมกับอัยการสูงสุดของสหรัฐฯ และหัวหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมุ่งเน้นตรวจสอบว่า ไบเดนรับรู้และมีส่วนร่วมในการตัดสินใจออกคำสั่งฝ่ายบริหารต่าง ๆ หรือไม่ โดยเฉพาะกรณีที่มีการใช้ปากกาอัตโนมัติ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่สามารถลงนามแทนประธานาธิบดีในเอกสารจำนวนมาก
ทรัมป์แสดงความกังวลว่า แม้รัฐธรรมนูญจะให้อำนาจประธานาธิบดีในการออกคำสั่งฝ่ายบริหารโดยชอบธรรม แต่ก็มีข้อสงสัยอย่างจริงจังเกี่ยวกับกระบวนการตัดสินใจและระดับการรับรู้ของไบเดนต่อการดำเนินการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในนามของเขา
คำสั่งยังระบุให้มีการตรวจสอบเอกสารสำคัญ เช่น คำสั่งอภัยโทษ การลดโทษ คำสั่งฝ่ายบริหาร และบันทึกของประธานาธิบดี ที่อาจมีการใช้ปากกาอัตโนมัติลงนาม พร้อมสืบหาว่าใครเป็นผู้สั่งให้ใช้ลายเซ็นของไบเดนในแต่ละกรณี
นอกจากนี้ ยังให้ที่ปรึกษากฎหมายของทำเนียบขาวตรวจสอบว่า มีความพยายามจงใจปิดบังข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพกายและจิตของไบเดนจากสาธารณชนหรือไม่ รวมถึงมีข้อตกลงระหว่างเจ้าหน้าที่ของไบเดนให้แถลงข้อมูลเท็จต่อสาธารณะเกี่ยวกับสมรรถภาพของประธานาธิบดีหรือไม่
ประเด็นเรื่องสุขภาพของไบเดนเป็นที่จับตามองอย่างมากตั้งแต่ปี 2567 หลังจากเขาทำผลงานได้อย่างย่ำแย่ในการดีเบตรอบแรกกับทรัมป์ จนต้องถอนตัวจากการแข่งขันเลือกตั้งภายใต้แรงกดดันจากพรรคเดโมแครต ต่อมาในเดือนพ.ค.ปีนี้ ไบเดนเปิดเผยว่าเขาป่วยด้วยมะเร็งต่อมลูกหมากชนิดรุนแรง และหนังสือเล่มหนึ่งระบุว่า สุขภาพของไบเดนเริ่มเสื่อมถอยมาหลายปีก่อนหน้านั้นแล้ว
ทั้งนี้ ทรัมป์ระบุในคำสั่งว่า สาธารณชนอาจถูกปิดบังไม่ให้ทราบว่าใครเป็นผู้ใช้อำนาจบริหารที่แท้จริง ในขณะที่ลายเซ็นของไบเดนถูกนำไปใช้ในเอกสารนับพันฉบับเพื่อผลักดันนโยบายที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างสุดโต่ง