Home Feature ‘เขมร’ ยังตะแบง! อ้อนไทยสู้คดีศาลโลก ย้ำด้านๆ จุดปะทะดินแดนกัมพูชา-รอง มทภ.2 ชี้วางใจไม่ได้

‘เขมร’ ยังตะแบง! อ้อนไทยสู้คดีศาลโลก ย้ำด้านๆ จุดปะทะดินแดนกัมพูชา-รอง มทภ.2 ชี้วางใจไม่ได้

by admin

ควรเปิดด่านหรือไม่? กระทรวงต่างประเทศแขมร์ ส่งหนังสือถึง “มาริษ” วอนไทยขึ้น “ศาลโลก” ชี้ขาดข้อพิพาทชายแดน ด้าน “กลาโหมกัมพูชา” ออกแถลงการณ์วันนี้! แถกัมพูชาไม่ได้ถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ซึ่งเป็นดินแดนอธิปไตยของประเทศ แค่ปรับกำลังพลหลีกเลี่ยงการปะทะ พร้อมขู่ปฏิบัติตามคำสั่ง “รัฐบาลฮุนมาเนต” ปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนของชาติ ตอบโต้หากไทยล่วงละเมิด “รองแม่ทัพภาคที่ 2” ระบุ วันนี้ชายแดนคลี่คลาย แต่ต้องเตรียมการรองรับ “วันข้างหน้า” อย่างเป็นระบบ ชี้ปัญหาข้างหน้าอาจแก้ไม่ได้ง่ายเหมือนวันนี้ ย้ำสถานการณ์เปลี่ยนคนเปลี่ยน วิธีการเปลี่ยน

เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.68 สำนักข่าว Khmer Times รายงานว่า รัฐบาลกัมพูชาย้ำคำขอให้ไทยให้ความร่วมมือในการยื่นเรื่องข้อพิพาทชายแดนต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เพื่อยืนยันในเจตนารมณ์ในการแก้ไขปัญหาอย่างสันติและถูกต้องตามกฎหมาย โดยเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน นายปรัก สุคน รองนายกรัฐมนตรีและความร่วมมือระหว่างประเทศของกัมพูชา ส่งหนังสือถึง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย ในเรื่องนี้

นายชุม เชือนรี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศฯ ของกัมพูชา เปิดเผยเนื้อหาของหนังสือดังกล่าวว่า

“ข้าพเจ้าเขียนหนังสือถึงท่านด้วยไมตรีจิต ความมุ่งมั่นในการอยู่ร่วมกันอย่างสันติและความปรองดองระหว่างสองประเทศ

ดังที่ท่านทราบ ข้อพิพาทเรื่องพรมแดนระหว่างกัมพูชาและไทยดำเนินมาอย่างยาวนานหลายทศวรรษ แม้จะมีการจัดตั้งกลไกทวิภาคีรวมถึงความพยายามที่จริงใจหลายครั้งเพื่อแก้ไขปัญหา แต่ปัญหาที่ยังไม่ได้ถูกแก้ไขนี้ยังคงเป็นต้นตอของความเข้าใจผิดและความตึงเครียดที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งได้นำไปสู่เหตุการณ์ที่น่าสลดใจหลายครั้ง

ล่าสุด เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม เกิดการเผชิญหน้ากันอย่างรุนแรงในพื้นที่หมู่บ้านเตโชมรกต ตำบาลมรกต อำเภอชอมก์สาน จังหวัดพระวิหารเมื่อกองทัพไทยเปิดฉากยิงใส่ฐานที่มั่นของกองทัพกัมพูชา ส่งผลให้ทหารกัมพูชารายหนึ่งเสียชีวิต เหตุการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการแก้ไขปัญหาอย่างสันติและยั่งยืน

วันเดียวกัน กระทรวงกลาโหมกัมพูชาได้ออกแถลงการณ์ลงวันที่ 9 มิถุนายน ยืนยันว่า กัมพูชาไม่ได้ทำการถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ที่เป็นดินแดนอธิปไตยของประเทศกัมพูชา

เนื้อหาของแถลงการณ์เน้นย้ำประเด็นสำคัญ ดังนี้

1.กองทัพกัมพูชาไม่ได้ถอนทหารออกจากพื้นที่ใดๆ อยู่ภายใต้เขตอธิปไตยของประเทศ โดยเฉพาะที่มั่นที่ทหารกัมพูชาได้ประจำการอยู่มาอย่างยาวนาน

2.การเตรียมความพร้อมของกองทัพ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งฐานประจำการ การปรับกำลัง หรือการระดมพล ล้วนดำเนินการภายในดินแดนภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา และมีจุดมุ่งหมายเพื่อปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนของชาติ

3.แม้ว่ากองทัพกัมพูชาจะสนับสนุนการแก้ไขข้อพิพาทอย่างสันติ แต่ก็ยังเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาล เพื่อปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนของชาติต่อการล่วงละเมิดใด ๆ

4.กองทัพพร้อมสนับสนุนการเจรจาเรื่องเขตแดนกับประเทศไทย ผ่านคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) เพื่อดำเนินการปักปันและติดตั้งหลักเขตแดนในพื้นที่ที่ยังไม่ได้ข้อยุติต่อไป ยกเว้นพื้นที่ที่กัมพูชามีแผนที่จะนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ)

นอกจากนี้ กระทรวงกลาโหมกัมพูชายังได้ เรียกร้องให้ประชาชนและสื่อมวลชน ติดตามข้อมูลข่าวสารจากแหล่งข่าวที่ถูกต้องและน่าเชื่อถือเท่านั้น โดยเฉพาะถ้อยแถลงอย่างเป็นทางการของรัฐบาลกัมพูชาและกระทรวงกลาโหม ซึ่งถือเป็นแหล่งข้อมูลที่ถูกต้อง แม่นยำ และเชื่อถือได้

ด้าน พล.ต.ณัฐ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 (รอง มทภ.2) ได้โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว “Mammoth S Nutt” เกี่ยวกับสถานการณ์กรณีพิพาทพื้นที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชาล่าสุด ระบุว่า “วันนี้คลี่คลาย แต่ต้องคิดว่าวันหน้าจะยังไงต่อ เตรียมการเพื่อรองรับวันข้างหน้าอย่างเป็นระบบ อย่าปล่อยเวลาไปเสียเปล่า ปัญหาข้างหน้าอาจแก้ไม่ได้ง่ายเหมือนวันนี้ สถานการณ์เปลี่ยน คนเปลี่ยน วิธีการเปลี่ยน”

ทั้งนี้ พล.ต.ณัฐ ศรีอินทร์ เป็นหนึ่งในนายทหารคนสำคัญของฝ่ายไทย พร้อม พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี (ผบ.กกล.สุรนารี) เข้าร่วมเจรจาหารือ กับ พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ฝ่ายกัมพูชา กรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี จนบรรลุข้อตกลง ฝ่ายทหารกัมพูชาได้ยินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ห่างจากจุดเกิดเหตุปะทะลึกเข้าไปในเขตแดนของกัมพูชา และดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อลดการเผชิญหน้าและสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ทำให้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาคลายความตึงเครียดลง เมื่อวานนี้ (8 มิ.ย.)

Related Articles