ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า จากผู้ก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐ สู่คีย์แมนคนสำคัญในสมการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) และการรีเทิร์นนั่งเก้าอี้รัฐมนตรี
ท่ามกลางกระแสการเมืองไทยที่กำลังจับจ้องไปยังการปรับ ครม. ชื่อของ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” ได้กลับมาอยู่ในสปอร์ตไลท์อีกครั้งในฐานะตัวแปรสำคัญ ผู้ซึ่งมีบทบาทอย่างยิ่งในการกำหนดทิศทางและโฉมหน้าใหม่ของ “รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร”
จากสถานะผู้ร่วมก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) สู่การเป็นประธานที่ปรึกษา “พรรคกล้าธรรม” ที่กำลังกุมอำนาจต่อรองทางการเมืองอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย แกนนำรัฐบาลที่ให้ความสำคัญต่อจำนวน ส.ส.ในมือที่พร้อมจะสนับสนุนหรือพลิกเกมได้ตลอดเวลา ทำให้ “ร.อ.ธรรมนัส” มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการเจรจาต่อรองโควต้าตำแหน่งรัฐมนตรี
การเคลื่อนไหวของแม่ทัพใหญ่ “กล้าธรรม” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า คือหนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้การปรับ ครม.ครั้งนี้ มีความซับซ้อนและน่าจับตามอง เป้าหมายของกลุ่มคือการเพิ่มโควตาเก้าอี้รัฐมนตรีเพื่อตอบแทนการสนับสนุนรัฐบาล ซึ่งเป็นไปตามวิถีการเมืองที่อำนาจต่อรองมักแปรผันตามจำนวนเสียงที่มีอยู่ในมือ
อีกทั้งสายสัมพันธ์กับผู้นำจิตวิญญาณ “เพื่อไทย” อย่าง “ทักษิณ ชินวัตร” ที่มองหน้าก็รู้ใจ ย่อมเห็นถึงความเป็นมิตรแท้ที่แนบแน่นกับ “เพื่อไทย” มาอย่างยาวนาน ย่อมต้องการคนกล้าและจริงใจ มาเป็นขุนศึกร่วมจัดทัพรัฐบาล
บทพิสูจน์ “ม้าดีที่ชื่อธรรมนัส” ไม่ใช่แค่ราคาคุยโตโอ้อวด ได้สร้างเซอร์ไพร์สประจักษ์แจ้งจากการลงสนามเลือกตั้งครั้งแรกของพรรคกล้าธรรม ด้วยการขับเคลื่อนอพยพ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ 20 ชีวิต ออกจากอ้อมกอด “ลุงป้อม” พลเอกประวิตร วงศ์สุวรรณ มาสร้างบ้านหลังใหม่ เมื่อปลายปี 2567
“ร้อยเอกธรรมนัส” แม่ทัพใหญ่กล้าธรรม ยังเดินหน้าประกาศกร้าวด้วยว่า เขาจะไม่หยุดอยู่แค่นี้ แต่ยังมีเป้าหมายที่จะรวบรวม ส.ส.จากมุ้งการเมืองต่างๆ ซึ่งมีการเจรจาจะมาร่วมกิจกรรมการเมืองด้วยกันแล้ว และได้แสดงความแข็งแกร่งในสนามเลอกตั้งซ่อม ส.ส.นครศรีธรรมราช โดยส่ง “บิ๊กโอ๋” ก้องเกียรติ เกตุสมบัติ ชนะผู้สมัครจากพรรคภูมิใจไทย ด้วยคะแนนกว่าหมื่นแต้ม สะท้อนให้เห็นว่าการทำงานการเมืองแบบร้อยเอกธรรมนัส ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
“สิ่งที่เราทำวันนี้ ผลปรากฏอย่างนี้ เราชนะครั้งนี้ เราจะขยายอย่างไรใน 14 จังหวัดภาคใต้” ร.อ.ธรรมนัส กล่าวถึงชัยชนะอย่างมุ่งมั่น
เป้าหมายต่อไป “ร.อ.ธรรมนัส” ย่อมมีฉากทัศน์การเมืองในรูปแบบของเขา พร้อมที่จะเป็น “แม่ทัพปักษ์ใต้” ให้อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ที่ยังไม่สามารถสร้างความไว้วางใจชาวปักษ์ใต้ นับแต่ไทยรักไทย และเพื่อไทย ก็ยังไม่สามารถกวาดที่นั่ง ส.ส.ภาคใต้ ได้แม้แต่คนเดียว สมการการเมืองพันธมิตรอย่าง “กล้าธรรม” จึงกลายเป็นดาวจรัสแสง ยากที่ “ทักษิณ-เพื่อไทย” จะปฏิเสธได้นั่นเอง
การเมืองแบบ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” ที่เฉิดฉายอยู่ในห้วงเลานี้ จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะได้รับโอกาสกลับมานั่งในคณะรัฐมนตรี “แพทองธาร 2” และน่าจะเป็นกลไกสำคัญยิ่ง สำหรับอนาคต “เพื่อไทย” ที่จะห้ำหั่นกับพรรคสีน้ำเงิน-ส้ม ที่รุมกินโต๊ะนั่นเอง