Home Thailand ‘ชูศักดิ์’ แจงปรับลดงบ 35,000 ล้านเอาไปแจกเงินหมื่น ไม่ผิด ม.144

‘ชูศักดิ์’ แจงปรับลดงบ 35,000 ล้านเอาไปแจกเงินหมื่น ไม่ผิด ม.144

by admin

“ทีมกฎหมายเพื่อไทย” แจงงบฯ 68 วงเงิน 3.5 หมื่นล้าน ที่ กมธ.ปรับลดไปใช้กระตุ้นเศรษฐกิจแจกเงินหมื่น ชี้ไม่เข้าข่ายข้อห้ามตาม “มาตรา 144” หลังมีการร้องเรียน “ป.ป.ช.” จี้เอาผิด ครม.-สส.-สว. หวังล้างไพ่การเมือง

นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะทำงานด้านกฎหมายพรรคเพื่อไทย ได้ชี้แจงกรณีมีการร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อเอาผิด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี (ครม.) รวมถึง สส. และ สว. ที่ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 ที่บัญญัติไว้ในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 หลัง ครม.มีมติตัดงบประมาณ 35,000 ล้านบาท ไปใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ที่มีข้อห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 “ห้ามแปรญัตติปรับลดหรือตัดทอนรายการเงินส่งใช้ต้นเงินกู้ ดอกเบี้ยเงินกู้ และเงินที่กำหนดให้จ่ายตามกฎหมาย”

ซึ่งรายการทั้ง 3 นี้ เรียกว่ารายการงบประมาณเพื่อชำระหนี้ภาครัฐ เป็นหนี้ที่กระทรวงการคลังค้ำประกัน และหนี้ของรัฐวิสาหกิจ รวมเจ็ดหน่วยงาน เป็นหนี้สาธารณะที่บังคับให้รัฐต้องตั้งงบประมาณชดใช้ทั้งเงินต้น ดอกเบี้ย เพื่อรักษาวินัยการเงินการคลังของประเทศ จะเอาแต่กู้ แต่ไม่ใช้คืน ประเทศก็จะล้มละลาย รายการทั้งสามนี้จึงห้ามกรรมาธิการปรับลดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคแรก

นายชูศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับรายการส่วนที่ปรับลดไป 35,000 ล้านบาท เป็นงบประมาณในส่วนที่กระทรวงการคลังและสถาบันการเงินเฉพาะกิจ 5 แห่ง ได้ทบทวนงบประมาณในส่วนที่สามารถชะลอการดำเนินการได้ และเป็นงบประมาณในส่วนของการชดเชยค่าใช้จ่ายหรือการสูญเสียรายได้ของหน่วยงานของรัฐอันเกิดจากโครงการของรัฐบาล ซึ่งรัฐต้องรับภาระชดเชยให้ โดยสามารถที่จะมียอดค้างได้ ทั้งหมดรวมกันไม่เกินร้อยละ 32 ของงบประมาณแผ่นดิน ตามที่คณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐกำหนด

“ดังนั้นงบประมาณ 35,000 ล้านบาทที่นำไปใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ที่เป็นประเด็นร้องเรียน จึงมิใช่งบประมาณชำระหนี้ภาครัฐ ที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 144 ห้ามแตะต้องแต่อย่างใด เท่าที่ตรวจสอบดู การแปรญัตติตอนจัดทำงบประมาณปี 2565 ก็ดำเนินการทำนองนี้เช่นกัน”

นายชูศักดิ์ กล่าวด้วยว่า หลักการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคหนึ่ง มีมานานแล้ว สาระสำคัญคือห้าม สส.แปรญัตติรายจ่ายตามที่มีข้อผูกพัน มีหลักการสำคัญที่มิให้ฝายนิติบัญญัติเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมรายจ่ายในโครงการที่มิได้เสนอโดยฝ่ายบริหาร ส่วนหลักการตามมาตรา 144 วรรคสอง มีมาตั้งแต่รัฐธรรมนูญ 2540, 2550 เพียงแต่รัฐธรรมนูญ 2560 เพิ่มมาตรการที่เข้มข้นขึ้น ตามที่มีความพยายามร้องเรียนเอา ครม. สส. สว. ทั้งสภาให้สิ้นสุดสมาชิกภาพไป

Related Articles