“อุ๊งอิ๊ง” เสียท่า! ตกหลุมพราง “ฮุนเซน” โดนแก้ผ้าแฉคลิปเสียง ด่า “แม่ทัพภาค 2” พร้อมชี้เป็นฝ่ายตรงข้าม “แพทองธาร” รับคลิปจริง! อัด “ลุงฮุน” ไร้มารยาทเจรจาผู้นำประเทศ แถมแชร์ต่อลิ่วล้ออีก 80 คน นายกฯ ดิ้นแจง เป็นเทคนิคเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลังสองพ่อลูก “ฮุน-ขแมร์” โกรธขึ้ง ปมทหารไทยท้ารบ แย้มไม่ได้รับปากข้อเสนอ “กัมพูชา” ให้ไทยเปิดด่าน เพราะต้องรอประชุมกองทัพ-หน่วยความมั่นคง ยันรัฐบาล-กองทัพไม่แตกแยก ก่อนทำอะไรปรึกษาตลอด จวก “อดีตผู้นำเขมร” ปล่อยคลิปเพื่อเรียกคะแนนเสียง หลังความนิยมตกต่ำ ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ลั่นตัดขาดไม่คุยส่วนตัวอีกแล้ว โลกโซเชียลฮึ่ม! จี้ “แพทองธาร” ไขก๊อกเซ่นคลิปลับ ด้าน “บิ๊กกุ้ง” ไม่ติดใจ เผยนายกฯ โทรเคลียร์แล้ว
จากกรณีที่โลกโซเชียลได้มีการเผยแพร่คลิปเสียงคล้ายนายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พูดคุยกับ “สมเด็จฮุน เซน” อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา และประธานวุฒิสภากัมพูชา ระบุว่าแม่ทัพภาค 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม และพร้อมจะเปิดด่านโดยการแถลง 2 ชาติ
โดยทาง “ฮุน เซน” ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ยอมรับโทรศัพท์คุยกับ “นายกฯ แพทองธาร” และบันทึกเสียงไว้ เผยคลิปเต็ม 17 นาที แต่หลุดออกมาแค่ 9 นาที เป็นการสนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีของไทยโดยมีล่ามชื่อเล่นว่า “อ้วน” ซึ่งเป็นคนในตระกูล “ฮุน”
“ฮุน เซน” อ้างว่าตามปกติแล้วเพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดหรือการบิดเบือนข้อเท็จจริงในเรื่องทางการ จึงจำเป็นต้องบันทึกเสียงการสนทนาเพื่อความโปร่งใส รวมถึงเพื่อวัตถุประสงค์ภายในกัมพูชาด้วย
จากนั้น “ฮุน เซน” ได้แบ่งปันการบันทึกเสียงการสนทนากับนายกรัฐมนตรีของไทย ให้แก่บุคคลประมาณ 80 คน รวมถึงสมาชิกคณะกรรมการถาวรของพรรค วุฒิสภา ทีมรัฐสภา หน่วยงานกิจการต่างประเทศ หน่วยการศึกษา กลุ่มกิจการชายแดน และสมาชิกกองทัพ โดยชี้ว่าในบรรดาบุคคลเหล่านี้ เป็นไปได้ว่าบางคนไม่เห็นด้วยกับนายกรัฐมนตรีของไทย

ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากการสนทนา “ผู้นำไทย” แถลงต่อสาธารณะว่า “ผู้นำกัมพูชาดำเนินการทางการเมืองอย่างไม่เป็นมืออาชีพ และมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองผ่านเฟซบุ๊ก”
พร้อมกันนี้ “ฮุนเซน” ยังขู่อีกว่า หากฝ่ายไทยต้องการ จะเผยแพร่ไฟล์เสียงความยาว 17 นาที 6 วินาทีทั้งหมด
ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปเสียงการพูดคุยกับ “ฮุน เซน” ที่ระบุถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยนายกฯ ยอมรับว่า “เป็นคลิปจริง” ซึ่งเป็นการพูดคุยกันส่วนตัว เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา ภายหลังมีคลิปของแม่ทัพภาคที่ 2 ที่พูดถึงเรื่องชายแดนไทย-กัมพูชา และทำให้ทางกัมพูชาโกรธ จึงได้โทรศัพท์ไปพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจ และเสนอเรื่องของการเปิด-ปิดด่านให้พร้อมกัน เพื่อจบปัญหา แต่ทางกัมพูชาปฏิเสธ ทั้งนี้ เข้าใจว่าการปล่อยคลิปดังกล่าวออกมา เพราะต้องการเรียกคะแนนนิยมให้กับ “ฮุน เซน” ดังนั้นต่อจากนี้จะไม่มีการพูดคุยกันเป็นการส่วนตัวอีกต่อไป
“สิ่งที่ตนทำ เพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีแล้วเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน เหมือนคุยกันกับรัฐมนตรีใน ครม. ทำงานมาตั้งแต่รุ่นของคุณพ่อ เรียกอา เรียกลุง เป็นปกติ และได้มีการพูดคุยกันว่าจะเอาอย่างไร”
นายกฯ กล่าวว่า ไม่แน่ใจเรื่องของไทม์ไลน์กองทัพว่าเป็นอย่างไร ซึ่งทางนั้นบอกให้เปิดด่าน ตนก็บอกว่าได้เลย เปิดพร้อมกันไหม จะได้แสดงสันติภาพว่าจับมือเปิดด่านพร้อมกัน แต่เขาก็ไม่ยอม แต่ตนก็ได้บอกไปว่าไม่ยอมได้อย่างไร เพราะไทยก็ยอมแล้ว ไม่ได้มีการต่อสู้ เป็นการพูดเพื่อให้ฝั่งนั้นเข้าใจว่าเราก็ไม่ได้ทำอะไร แต่เหตุใดทางนั้นจึงบอกว่าไม่ได้ ไทยต้องเปิดก่อน แต่เขาก็บอกว่าเขาเป็นลูกผู้ชายคำไหนคำนั้น แต่ตนก็ไม่แน่ใจ จึงขออนุญาตปรึกษากับทีมกลาโหมก่อน และจะมาให้คำตอบในวันต่อไป
“คือวันที่มีการประชุมที่บ้านพิษณุโลก แต่เมื่อประชุมยังไม่เลิก ฮุนเซนก็มีการโพสต์เฟซบุ๊กออกมา ว่าถ้าประเทศไทยไม่เปิดด่านภายใน 24 ชั่วโมง กัมพูชาจะปิดด่านชายแดนทั้งหมด ตนก็รู้สึกว่า อ้าวทำไมไม่เหมือนที่คุยกันไว้ ตนก็พยายามจะพูดด้วยความใจเย็น เพราะอยากทราบว่าจริงๆ แล้วเขาต้องการอะไร มีอะไรบ้างที่เราจะทำเพิ่มเติมให้ได้ หรือจะคุยกันอย่างไรให้เกิดการต่อรองและสันติภาพไม่มีการเสียเลือดเสียเนื้อกัน นี่คือความตั้งใจของตน”
แต่ทั้งนี้ “ฮุน เซน” ก็ย้ำเรื่องของการเปิดด่านอย่างเดียว ซึ่งตนไม่กล้ารับปาก เพราะไม่แน่ใจว่ากองทัพพร้อมหรือไม่ อีกทั้งต้องรอประชุมกับกองทัพและหน่วยงานความมั่นคงก่อน
“แต่ตอนนี้ชัดเจนแล้วค่ะ ว่าความต้องการของท่านจริงๆ แล้วเป็นความต้องการคะแนนนิยม ภายในประเทศของท่านเอง โดยไม่สนใจว่าจะเกิดความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างไร การที่ท่านต้องการจะมี Popularity ในประเทศของท่าน เพราะท่านก็เคยบอกดิฉันว่า popularity เริ่มตก อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้อยากจะเรียกพลังตรงนี้ ดิฉันก็หวังว่าท่านจะได้คะแนนความนิยมเพิ่ม และอยู่ในสายตาของโลกที่จับตามองอยู่ว่า เมื่อผู้นำสองท่านคุยกันส่วนตัว แต่มีการอัดคลิปและปล่อยออกมาแบบนี้ แน่นอนว่าดิฉันไม่ได้ปล่อย ก็ตามนั้นค่ะจะได้เข้าใจจุดประสงค์ ว่าจริงๆ แล้วเราต้องการเจรจาให้เกิดสันติภาพ ก็ไม่ทราบว่าจะเป็นหนึ่งในการทำให้ Popularity ของท่านเพิ่มขึ้นก็ไม่เป็นไร ก็ตามนั้นค่ะ”

เมื่อถามว่าเนื้อหาการสนทนาในคลิปที่หลุดออกมามีการพูดในลักษณะว่าแม่ทัพภาคที่ 2 “ไม่ใช่พวกเรา” เป็นเทคนิคในการสนทนาของนายกรัฐมนตรีใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร รีบปฏิเสธทันทีว่า หมายถึงเรากับกัมพูชา เราเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว การที่จะมาคุยกันเราก็พูดถึงกันไม่ดีอยู่แล้ว แต่ตนต้องการทำความเข้าใจกับเขาว่าแม่ทัพภาค 2 พูดไปแบบนั้น เพราะข้อความก่อนที่จะคุยกัน ล่ามที่แปลบอกว่าสมเด็จฮุนเซน โกรธที่มีคลิปแม่ทัพภาค 2 ออกมา แล้วก็ว่าออกไป แต่จริงๆ แล้วถ้าฟังทั้งหมดก็ไม่ได้มีอะไร แต่เป็นการตัดประโยคตรงนั้นออกไป
เมื่อถามว่า มีรายงานว่าจะมีการปล่อยคลิปเต็มออกมา จะมีปัญหาอะไรตามมาหรือไม่ โดยเฉพาะความมั่นคง เพราะเหมือนกับว่าถูกยุยงให้รบกันเองภายในประเทศ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ใช่ค่ะ ที่ไม่อยากให้คนไทยไปหลงกลตรงนี้ เพราะนี่ก็เป็นเทคนิคอย่างหนึ่ง ที่ทำให้เข้าใจว่าเราทะเลาะกันเอง แต่จริงๆ แล้วที่ตนพูด เพื่อต้องการให้เขาบอกความต้องการของเขาว่าอะไรที่จะทำให้ประเทศชาติสงบสุข อะไรที่จะทำให้การปะทะจบลง ตนก็อยากรู้ ก็ใช้ความสามารถในการพูดคุยว่าจะเอายังไง เพราะตนก็ไม่ยอมที่จะเปิดด่าน แต่หากจะเปิดก็เปิดพร้อมกัน กับฮุนมาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ดีหรือไม่ จะได้เป็นความสัมพันธ์ร่วมกันว่าเราเลิกทะเลาะกันแล้ว และมาเปิดด่านร่วมกัน นี่คือความตั้งใจของตน แต่ฮุนเซนก็ไม่ยอม ท่านบอกประมาณว่า เป็นการโกหก แต่ตนก็ฟังไม่ค่อยเข้าใจเนื่องจากเป็นการแปลจากล่าม เสียงก็จะไม่ชัดเจน ซึ่งท่านบอกว่าได้ข้อมูลมาว่าที่ไม่เปิดเพราะทหารโกหก เมื่อท่านได้ข้อมูลนี้มาตนก็ไม่แน่ใจเรื่องข้อมูล เพราะไม่ได้ดีลตรงตรงนั้น จึงบอกไปว่าไทยจะมีการประชุมกับฝ่ายความมั่นคงและทหาร เรียกทุกคนมาครบหมดขอปรึกษากับกองทัพก่อนว่าจะเอาอย่างไร
เมื่อสถานการณ์เป็นแบบนี้โดยเฉพาะมีการปล่อยคลิปจะมีการพูดคุยกันต่อได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี นิ่งคิด ก่อนจะบอกว่า “ไม่ทราบ”
เมื่อถามว่า จะยึดหลักสันติในการเจรจากับกัมพูชาได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่าตนก็ไม่ใช่คนที่จะไปท้าตีท้าต่อยอยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นก็คงไม่มีการพูดคุยกันเป็นการส่วนตัว
ถามย้ำว่าเนื้อหาในคลิปจากล่ามที่แปล บอกประมาณว่านายกฯ พูดว่าอยู่ตรงข้ามกับแม่ทัพภาคที่ 2 จำเป็นจะต้องมีการทำความเข้าใจกับแม่ทัพภาคที่ 2 และกองทัพหรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดกันระหว่างรัฐบาลกับกองทัพ นายกฯ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องเข้าใจเลยว่า ถ้าตนเป็นฝ่ายตรงข้ามกับกองทัพจริงๆ เหตุใดตนจึงต้องบอกว่ารอปรึกษากองทัพว่าคิดอย่างไร เหตุใดตนต้องรอกองทัพคิดก่อนว่ากองทัพคิดอย่างไร ถ้าตรงข้ามก็ไม่ต้องรอ แต่นี่ไม่ใช่
ส่วนทั้งสองตระกูลจะไว้ใจกันได้อีกต่อไปหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ทราบ
พร้อมระบุว่า “เนื้อหาของการสนทนาที่ต้องการจะทำให้รัฐบาลแตกแยกกับทางกองทัพ” ขอยืนยันว่า รัฐบาลและกองทัพไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน เพราะก่อนที่ตนจะทำอะไร ได้ปรึกษากองทัพก่อนตลอด