ประธาน กมธ.ทหารฯ วุฒิสภา มั่นใจ “อุ๊งอิ๊ง” ตกเก้าอี้! ขอบคุณฮุนเซน-นายกฯ ทำคนไทย-กองทัพตาสว่าง จี้รัฐบาลตอบโต้เขมรเด็ดขาด ถึงเวลาลดระดับความสัมพันธ์-ทบทวน MOU ผลาญภาษีคนไทยทั้งแผ่นดิน “อุ้มชูกัมพูชา” ที่เป็นภัยต่อความมั่นคงประเทศ ลั่น “ไม่อาจปล่อยให้บุคคลที่เป็นฝั่งตรงข้ามกับประเทศไทย” บริหารราชการแผ่นดินอีกต่อไปแม้แต่วินาทีเดียว! จับตา 1 ก.ค.นี้ “ศาล รธน.” เคาะรับ-ไม่รับคำร้อง “แพทองธาร” ปมคลิปเสียง “ประธานศาลฯ” ชี้เอง! นายกฯ อาจไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่เสมอไป ด้าน “คปท.” ฮึ่ม! นำมวลชนเคลื่อนไหวกดดัน “รทสช.” จี้ถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล
พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา ประธานกรรมาธิการ (กมธ.) การทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา เปิดเผยกับ “เอซีเอ็น ฮ็อตนิวส์” ถึงการดำเนินการฟ้องร้องศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ศาลฯ วินิจฉัย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที พร้อมระบุว่า “ไม่อาจปล่อยให้บุคคลที่เป็นฝั่งตรงข้ามกับประเทศไทย” บริหารราชการแผ่นดินต่อไปได้แม้แต่วินาทีเดียว จึงจําเป็นต้องยื่นถอดถอน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ออกจากตําแหน่งนายกฯ จากกรณีขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) (5) เนื่องจากไม่มีความซื่อสัตย์สุจริต และมีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณาในวันที่ 1 ก.ค.นี้
โดย พล.อ.สวัสดิ์ ได้แสดงความเชื่อมั่นว่า จากการหารือพูดคุยกับบุคคลหลายภาคส่วน และนักกฎหมายหลายคน ต่างเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า การกระทำของนายกฯ ละเมิดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญหลายมาตรา และเชื่อว่าศาลฯ น่าจะมีวินิจฉัยไปในทิศทางนั้น
เรื่องคลิปเสียงระหว่างนายกฯ และฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ทำให้ประชาชนคนไทย และกองทัพหูตาสว่างขึ้น หากไม่มีคลิปหลุด บ้านเมืองจะเสียหายอย่างใหญ่หลวง และถึงวันนี้ต้องชื่นชมคนไทยทุกหมู่เหล่า ที่ได้แสดงออกถึงความสมัครสมานสามัคคีในการปกป้องอธิปไตย ผ่านวิธีการที่หลากหลาย เช่น บริจาคสิ่งของให้ทหาร และแม้แต่การชื่นชมให้กำลังใจผ่านโลกโซเซียล ก็ทำให้รั้วของชาติมีกำลังใจที่เข้มแข็งในการปฏิบัติหน้าที่ หลังจากที่ต้องขวัญเสียไปกับภาวะของผู้นำบ้านเมือง ที่มีพฤติกรรมเป็นปฏิปักษ์กับกองทัพ ยืนคนละฟากฝั่ง และวันนี้ประชาชนก็ได้ตอบคำถามที่ว่า “ทหารมีไว้ทำไม?” กระจ่างแจ้งแล้ว
“วันนี้ประชาชนคนไทยต้องขอขอบคุณนายกฯ และฮุนเซน ที่ทำให้หูตาของคนไทยและทุกภาคส่วนสว่างจากการได้ยินได้ฟังคลิปอื้อฉาวที่เกิดขึ้น”
พล.อ.สวัสดิ์ ยังระบุด้วยว่า จากท่าทีของรัฐบาลกัมพูชา รัฐบาลไทยควรมีมาตรการตอบโต้ที่เด็ดขาด เพื่อรักษาอธิปไตย และถึงเวลาที่จะต้องทบทวนบันทึกข้อตกลง (MOU) ต่างๆ ซึ่งปัจจุบันเราในฐานะประเทศใหญ่ที่มีความเจริญมากกว่า แบกภาระดูแลตามหลักมนุษยธรรม ส่งลูกหลานชาวกัมพูชามาเล่าเรียนในไทย ดูแลคนเจ็บป่วย ฯลฯ
อีกทั้งรัฐบาลเพื่อไทยยังไปทำข้อตกลง นำเงินภาษีของประชาชนไปพัฒนาสร้างสะพาน จ้างแรงงานกัมพูชา ฯลฯ สิ่งเหล่านี้รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการทบทวน เพราะกัมพูชามีท่าทีไม่มีความจริงใจในฐานะมิตรประเทศที่ไทยให้การสนับสนุนช่วยเหลือมาอย่างยาวนาน
จับตา 1 ก.ค.นี้ ‘ศาล รธน’ รับ-ไม่รับคำร้อง ‘แพทองธาร’ พ้นนายกฯ
ทั้งนี้ ในส่วนของศาลรัฐธรรมนูญ ได้นัดประชุมคดีในคราวถัดไป วันที่ 1 ก.ค.68 ท่ามกลางการจับตามองของหลายฝ่ายว่าจะมีการพิจารณาคำร้องของนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา หรือไม่ ตามที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสถานะความเป็นนายกรัฐมนตรีของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดลงเป็นการเฉพาะตัว
ต่อมา นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ระบุว่า ตอนนี้อยู่ในกระบวนการรับเรื่อง ส่วนวันที่ 1 ก.ค.จะมีการพิจารณาเรื่องคลิปเสียงได้หรือไม่นั้น ก็มีความเป็นไปได้ แต่ตอนนี้แต่ก็ต้องให้คณะตุลาการตรวจเอกสารครบถ้วนก่อน ซึ่งหากมีการพิจารณาก็จะออกได้ 2 ทาง คือ “รับ” หรือ “ไม่รับเรื่อง” แต่วันที่ 1 ก.ค. จะมีคำสั่งได้เลยหรือไม่นั้น ยังไม่ทราบ ต้องรอตรวจเอกสารก่อนและเข้าองค์คณะ ทุกครั้งที่เราประชุม จะต้องมีองค์คณะครบ 9 คน
หากวันที่ 1 ก.ค.ศาลรัฐธรรมนูญรับพิจารณาคดีคลิปเสียง จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่นั้น ก็ไม่จำเป็นจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่เสมอไป ซึ่งเราก็จะดูว่ามีข้อเท็จจริงว่าการหยุดปฏิบัติหน้าที่จะทำให้เกิดความเสียหายหรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีที่เรารับคดี แต่ไม่ได้สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่
คปท.ฮือบุก ‘รทสช.’ จี้ถอนตัวพ้น ‘พรรคร่วมรัฐบาล’
เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (25 มิ.ย.) ที่ทำการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นำโดยนายพิชิต ไชยมงคล แกนนำ เดินขบวนพร้อมถือป้ายข้อความ เช่น ออกมาเถอะอย่าหลงกลนายกฯ ชั่วหลอกใช้ท่านให้เป็นพวก, เบื่อนักการเมืองตอแหล, GET OUT, ตื่นเถิดชาวไทยก่อนจะไม่มีผืนแผ่นดินให้ท่านอยู่ โปรดมาร่วมกอบกู้แผ่นดินไทยให้พ้นภัย เป็นต้น
โดยเป็นการแสดงกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ภายหลังพรรค รทสช. ยังร่วมรัฐบาลกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จากกรณีมีคลิปการสนทนาของนายกฯ กับสมเด็จ ฮุน เซน อดีตผู้นำกัมพูชา
นายพิชิต กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาเพื่อเรียกร้องทั้งหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และกรรมการบริหารพรรค รทสช. ที่เคยอยู่ในการเคลื่อนไหวในนาม “กปปส.” มาก่อน จึงคิดว่าจะเข้าใจความรู้สึกของประชาชนที่กำลังเรียกร้องให้ประเทศไทยผ่านวิกฤตไปให้ได้ ทั้งวิกฤตความมั่นคงชายแดนกัมพูชา วิกฤตการเมือง และสังคม รวมถึงนโยบายที่ส่งผลต่อประชาชน เช่น กาสิโน และกรณีชั้น 14 ที่ทุกคนทราบดีว่าเป็นเรื่องอะไร
“จุดอ่อนของประเทศในวันนี้คือภาวะการนำของ น.ส.แพทองธาร ดังนั้นอยากให้ประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤติทางด้านความมั่นคงได้ น.ส.แพทองธาร ต้องลาออก ยืนยันไม่ได้เรียกร้องการรัฐประหาร แต่ขณะนี้มีแคนดิเดตนายกฯ เหลืออีกคน และอีกหลายคนก็มีคุณสมบัติที่จะนำพาประเทศผ่านพ้นวิกฤตไปได้ และขอเรียกร้องให้พรรค รทสช. ถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาล โดยหลังวันที่ 28 มิ.ย. มวลชนจะไปทุกพรรคร่วมรัฐบาล เพราะประเมินแล้วว่า น.ส.แพทองธาร ไม่ฟังเสียงประชาชนต้องสู้กันอีกยาว” แกนนำ คปท.กล่าว
