‘ลิณธิภรณ์’ โต้ม็อบ! ปลุกวาทกรรมให้เข้าใจผิด ลั่น “รัฐบาลอิ๊งค์” ไม่ยกเลิก MOU 43-44 ชี้อย่าตัดขาตัวเองจากเวทีเจรจา เตือนอย่าหลงกระแสการเมืองเพื่อนบ้าน ทำลายผลประโยชน์ชาติระยะยาว
เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีแกนนำกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไทยชาติ เมื่อวานนี้ ซึ่งเรียกร้องให้ยกเลิกบันทึกความเข้าใจระหว่างไทย-กัมพูชา (MOU) ฉบับปี 2544 หรือที่รู้จักในชื่อ MOU 43-44 โดยระบุว่า รัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่มีแนวคิดในการยกเลิก MOU ฉบับนี้ MOU 43-44 ไม่ใช่ข้อตกลงที่มอบอำนาจ หรืออธิปไตยให้กัมพูชา แต่เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยรักษาผลประโยชน์ของประเทศไทยในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล และเปิดช่องให้มีการเจรจาในอนาคต
“ดังนั้นการรักษา MOU ไว้ ไม่ใช่การยอมแพ้อย่างที่บางฝ่ายมุ่งสร้างวาทกรรม แต่ความจริงคือหลักประกันของไทยที่จะมีสิทธิ์ร่วมกำหนดอนาคตของพื้นที่ทับซ้อน ไทยจึงยังถือไพ่เหนือโต๊ะ ไม่เสียเปรียบเชิงยุทธศาสตร์”
น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวต่อว่า หากไทยยกเลิก MOU ดังกล่าวโดยไม่มีกรอบ หรือแนวทางรองรับที่เหมาะสม จะทำให้ไทยสูญเสียสถานะการเจรจาในเวทีระหว่างประเทศทันที ขณะที่กัมพูชาอาจหันไปเจรจากับประเทศที่สามแทน ซึ่งอาจทำให้ไทยพลาดโอกาสในการร่วมลงทุนและแบ่งผลประโยชน์จากแหล่งพลังงานในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล
“การชุมนุมเป็นเสรีภาพ แต่ไม่ควรสร้างวาทกรรมให้เกิดความเข้าใจผิดในวงกว้าง รัฐบาลนายกฯ แพทองธาร ยึดมั่นในผลประโยชน์ของชาติ จะไม่หลงตามการปลุกปั่นกระแสการเมืองภายในประเทศเพื่อนบ้านระยะสั้น มาทำลายยุทธศาสตร์ และผลประโยชน์ระยะยาวของประเทศไทย หากยกเลิก MOU 43-44 เท่ากับตัดขาตัวเองออกจากเวที ไม่ใช่แค่เรื่องพลังงาน แต่หมายถึงความน่าเชื่อถือของประเทศในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้วย” น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าว