ไทยสุดทน! ประณาม “กัมพูชา” รุนแรง ฉะ “ฮุน มาเนต” พาดพิงไทย-บิดเบือนข้อเท็จจริง “บัวแก้ว” ลั่น “ก้าวล่วงอธิปไตย ไม่อาจยอมรับได้” จี้กัมพูชาเลิกจุ้น ยุติแทรกแซงกิจการภายในประเทศอื่น ซัดละเมิดกฎบัตร “อาเซียน-ยูเอ็น” ขัดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง “กต.” ยังจับตาใกล้ชิด “อังเคิลฮุน” พบปะนายกฯ สิงคโปร์ ปูด “ฮุนเซน” ตีหน้าเศร้าเล่าเท็จ อ้างทหารไทยยิงก่อน-ปิดด่านคุกคามสารพัด ย้ำท่าที “กองทัพ” แข็งกร้าว พร้อมปกป้องเขตแดน ฮึ่ม! แผนชั่วปักหมุด “ตาเมือนธม” ใน Google map ถูกย้ายไปฝั่งเขมร
เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 68 ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและกัมพูชากำลังเผชิญหน้ากับความตึงเครียดครั้งใหม่ หลังกระทรวงการต่างประเทศของไทยได้ออกแถลงการณ์ประณามกัมพูชาอย่างรุนแรงในวันนี้ สืบเนื่องจากนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ได้พาดพิงถึงประเทศไทยในสื่อสังคมออนไลน์ในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงการกล่าวในลักษณะเรียกร้องและต้องการเห็นการเปลี่ยนผู้นำของรัฐบาลไทย เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 นั้น
นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) แถลงการณ์ถึงความไม่พอใจของประเทศไทยต่อการกระทำของกัมพูชา โดยระบุว่า รัฐบาลไทยเห็นว่าเรื่องดังกล่าวเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของไทย ซึ่งขัดต่อกฎบัตรอาเซียน กฎบัตรสหประชาชาติ และกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง
“รัฐบาลไทยจึงขอเรียกร้องให้ผู้นำกัมพูชายุติการกระทำในลักษณะดังกล่าวโดยทันที เนื่องจากอาจส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศอย่างร้ายแรง และขอเรียกร้องให้กัมพูชาหันมาแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธีระหว่างสองประเทศโดยเร็ว”
“ฮุนเซน” เป่าหูผู้นำสิงคโปร์ อ้างกัมพูชาโดนไทยรุกราน
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม สำนักข่าวเฟรชนิวส์ของกัมพูชา รายงานว่า สมเด็จฯ ฮุน มาเนต อ้างว่ากัมพูชาไม่ได้แทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่น และแต่ละประเทศต้องแก้ไขปัญหาภายในประเทศของตัวเอง พร้อมกับเตือนไม่ให้ใครกล่าวหาหรือโทษกัมพูชา และยังบอกด้วยว่ากัมพูชาจะตอบโต้กลับหากยังถูกกล่าวหาอย่างไม่เป็นธรรม และการที่กัมพูชาพาดพิงถึงสถานการณ์ทางการเมืองในไทย เป็นเพียงการตอบโต้กลับข้อกล่าวหาและการดูหมิ่นจากฝ่ายไทยเท่านั้น
นอกจากนี้ การพบปะระหว่างสมเด็จฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีและบิดาของนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน กับ “ลอเรนซ์ หว่อง” นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ในวันนี้ (2 ก.ค.) ก็ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด โดยสมเด็จฯ ฮุนเซน ยังได้กล่าวถึงสถานการณ์ปัญหาชายแดนกัมพูชา-ไทย โดยระบุถึงสาเหตุของเหตุการณ์ที่เริ่มจากทหารไทยยิงทหารกัมพูชาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 28 พ.ค. และไทยปิดชายแดนฝ่ายเดียวและข่มขู่คุกคามอื่นๆ
พร้อมกล่าวอีกว่า กัมพูชาไม่ต้องการทำสงครามกับประเทศเพื่อนบ้าน กัมพูชาต้องการแก้ไขปัญหานี้โดยสันติและยึดตามกฎหมายระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม “ฮุนเซน” อ้างต่อนายกฯ สิงคโปร์ว่า หากไทยยังคงละเมิดและรุกรานกัมพูชาต่อไป เราต้องใช้สิทธิของเราในการปกป้องตนเอง
ด้านนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ แสดงความขอบคุณสมเด็จฯ ฮุน เซน ที่อธิบายถึงสถานการณ์ปัจจุบันระหว่างกัมพูชาและไทยให้ฟัง โดยยืนยันว่าเขาสนับสนุนการแก้ไขปัญหาอย่างสันติโดยยึดหลักกฎหมายระหว่างประเทศและกลไกทวิภาคี พร้อมแสดงความหวังว่า สันติภาพจะบังเกิดขึ้นในภูมิภาคอาเซียน
กองทัพบกย้ำ “พร้อมปกป้องอธิปไตย” ฮึ่ม! ย้ายหมุด Google Maps “ตาเมือนธม”
ด้าน พันเอกหญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก ได้แถลงการณ์ล่าสุดในวันนี้ โดยย้ำถึงความพร้อมในการปกป้องอธิปไตยของชาติ หลังเกิดกรณีการเปลี่ยนแปลงพิกัดปราสาทตาเมือนธมบน Google Maps
“กองทัพบกขอเรียนให้พี่น้องประชาชนทุกท่านทราบว่า เราตระหนักถึงความสำคัญของกรณีการย้ายพิกัดปราสาทตาเมือนธมบน Google Maps เป็นอย่างดี เรื่องนี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความรู้สึกของคนไทยและประเด็นเขตแดนที่ยังคงเป็นที่ละเอียดอ่อน แม้ว่า Google Maps จะเป็นแพลตฟอร์มสาธารณะ แต่การเปลี่ยนแปลงข้อมูลในลักษณะนี้ย่อมสร้างความเข้าใจผิดและอาจนำไปสู่ความขัดแย้งได้”
รองโฆษกกองทัพบกย้ำว่า กำลังพลในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชายังคงปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็งและเป็นปกติ โดยมีการลาดตระเวนและเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยและรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดน
อย่างไรก็ตาม กองทัพบกพร้อมที่จะปกป้องอธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติอย่างเต็มที่ในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการรุกล้ำในรูปแบบใดก็ตาม
“กองทัพยังคงสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้วยสันติวิธี แต่จะไม่ประนีประนอมในเรื่องของอธิปไตยและบูรณาภาพแห่งดินแดนของไทย”