กต.ไทยไม่ทน! หลังกัมพูชาขู่ลากชนวนปะทะ “ช่องบก” ขึ้นศาลโลก ติงกัมพูชาให้เคราพพันธกรณี ยึด MOU43 ย้ำกลไก JBC คือทางออก
วันนี้ (6 ก.ค.) กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้กัมพูชาเคารพพันธกรณี ตามบันทึกความเข้าใจ (MOU 43) ปี พ.ศ.2543 ที่ระบุชัดเจนถึงการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) เป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาเขตแดนทวิภาคี โดยเน้นย้ำว่า MOU ดังกล่าวไม่ได้กล่าวถึงการนำประเด็นข้อพิพาทขึ้นสู่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ)
แถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศ มีขึ้นภายหลังกัมพูชาประกาศจะนำพื้นที่ชายแดนพิพาท 4 จุด ขึ้นสู่ศาลโลก สืบเนื่องจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 28 พ.ค.68 ซึ่งมีทหารกัมพูชาเสียชีวิตจากการปะทะกับทหารไทยในพื้นที่ช่องบก (สามเหลี่ยมมรกต)
ประเทศไทยยืนยันความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี ตามกรอบของ MOU โดยชี้ให้เห็นว่ากลไก JBC ได้พิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในการปักปันเขตแดนกับมาเลเซีย และลาว ซึ่งมีความคืบหน้าไปกว่า 90% และกัมพูชาเองก็ใช้กลไกทวิภาคีในลักษณะเดียวกันกับประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ
นอกจากนี้ ไทยยังได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาของกัมพูชาที่ว่า ไทยทำให้กระบวนการ JBC ต้องหยุดชะงัก โดยระบุว่าไทยได้เรียกร้องให้มีการประชุม JBC มาโดยตลอด ก่อนที่ JBC ครั้งล่าสุดจะได้มีขึ้น เมื่อวันที่ 14-15 มิ.ย.68 ประเทศไทยจึงขอปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ไม่ถูกต้องนี้ เพราะไทยเองไม่เคยถอนตัวจากกระบวนการดังกล่าว
รัฐบาลไทยจึงเรียกร้องให้กัมพูชา “เคารพพันธกรณีที่มีระหว่างกัน” และเข้าร่วมการเจรจาทวิภาคีผ่าน JBC สำหรับประเด็นเขตแดนทั้งหมด รวมถึงพื้นที่พิพาททั้ง 4 จุด ก่อนจะพึ่งพากลไกอื่นซึ่งอยู่นอกเหนือไปจากวิธีการที่ได้ตกลงกัน เพื่อยุติปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และป้องกันไม่ให้ปัญหาเกิดขึ้นซ้ำซากในอนาคต กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ในท้ายที่สุด ไทยย้ำจุดยืนในการยึดมั่นในสันติวิธีและกฎหมายระหว่างประเทศ โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างพื้นที่ชายแดนให้เป็นพื้นที่พรมแดนสันติภาพ มิตรภาพ ความร่วมมือ และการพัฒนา เพื่อความเป็นอยู่ที่ดี และประโยชน์สุขของประชาชนตามแนวชายแดนทั้งสองประเทศ