ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้ (16 ก.ค.) อยู่แดนลบเป็นส่วนใหญ่ หลังตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน มิ.ย. สูงกว่าคาดการณ์ที่ 2.7% จุดชนวนความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะชะลอการลดดอกเบี้ยในปีนี้ ส่วนหุ้นกลุ่มเทคฯ ปรับตัวขึ้นสวนตลาด ขานรับข่าวสหรัฐฯ เตรียมไฟเขียวให้ Nvidia กลับมาส่งออกชิป AI ให้จีนได้อีกครั้ง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงแลกเปลี่ยนแร่หายาก
ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ระดับ 39,642.40 จุด ลดลง 35.62 จุด หรือ -0.09%
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 3,500.62 จุด ลดลง 4.38 จุด หรือ -0.13%
ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 24,658.55 จุด เพิ่มขึ้น 68.43 จุด หรือ +0.28%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวลง –0.75%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวลง -0.90%
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เผยว่าดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ปรับตัวขึ้น 2.7% ในเดือน มิ.ย. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.6% และสูงกว่าในเดือน พ.ค.ที่ปรับตัวขึ้น 2.4%
นักลงทุนคาดการณ์ว่า “เฟด” จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้งในปีนี้ คือในเดือน ก.ย. และ ธ.ค. หลังสหรัฐฯ เปิดเผย CPI ที่สูงกว่าคาด
อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มบริษัทชิปในเอเชียปรับตัวขึ้น รับข่าวบริษัทอินวิเดีย (Nvidia) ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐฯ จะกลับมาจำหน่ายชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) รุ่น H20 ให้กับจีนในเร็วๆ นี้ หลังจากสหรัฐฯ เตรียมยกเลิกการควบคุมการส่งออกชิป
ขณะเดียวกัน หุ้น TSMC ซึ่งเป็นผู้ผลิต GPU ประสิทธิภาพสูงให้กับอินวิเดีย, หุ้นหงไห่ฯ (Foxconn) และหุ้น Advantest ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์อุปกรณ์ทดสอบเซมิคอนดักเตอร์ ต่างก็ปรับตัวขึ้นในช่วงเช้านี้
โฮเวิร์ด ลุตนิก รมว.พาณิชย์ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า การที่รัฐบาลเตรียมอนุญาตให้ “อินวิเดีย” กลับมาจำหน่ายชิป AI รุ่น H20 ให้กับจีนอีกครั้งนั้น เป็นส่วนหนึ่งของการเจรจาแร่หายาก (Rare Earth) กับรัฐบาลจีน เพื่อให้จีนกลับมาส่งออกแร่ดังกล่าวซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงให้แก่สหรัฐฯ