ตลาดหุ้นไทยปิดภาคเช้าบวกเพียง 0.24 จุด ดัชนีแกว่งตัวในกรอบแคบ นักลงทุนชะลอการซื้อขายเพื่อลดความร้อนแรงหลังดัชนีบวกขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ยังไร้ปัจจัยใหม่หนุนตลาด จับตาผลเจรจาการค้า สหรัฐฯ หลังอินโดฯ ปิดดีลได้แล้ว
ภาวะตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าวันนี้ (16 ก.ค.) ดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบแคบและค่อนข้างทรงตัว โดยปิดตลาดที่ระดับ **1,161.25 จุด เพิ่มขึ้น 0.24 จุด (+0.02%)** ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 24,423 ล้านบาท
นักวิเคราะห์ฯ ชี้ว่า ตลาดหุ้นไทยในภาคเช้าเป็นการแกว่งตัวเพื่อชะลอความร้อนแรงลง หลังจากที่ดัชนีปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่องกว่า 50 จุดในช่วง 3 วันทำการที่ผ่านมา ประกอบกับยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามาสนับสนุนตลาดอย่างชัดเจน จึงอาจเห็นการย่อตัวของดัชนีได้บ้าง
อย่างไรก็ตาม ตลาดโดยรวมยังได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อในหุ้นขนาดใหญ่อย่าง AOT ที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงการฟื้นตัวของหุ้นในกลุ่มธนาคาร นำโดย KBANK หลังจากที่เผชิญแรงขายทำกำไรเมื่อวันก่อนหน้า
ประเด็นสำคัญที่นักลงทุนกำลังจับตามองอย่างใกล้ชิด คือความคืบหน้าของการเจรจาการค้าระหว่างไทยและสหรัฐอเมริกา โดยล่าสุดมีรายงานว่าอินโดนีเซียสามารถบรรลุข้อตกลงกับสหรัฐฯ ได้สำเร็จ โดยจะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าที่อัตรา 19%
ข่าวดังกล่าวสร้างความกังวลต่อนักลงทุนและภาคเอกชนไทย เนื่องจากปัจจุบันไทยยังคงถูกเก็บภาษีในอัตราสูงกว่า 30% ซึ่งหากการเจรจาของไทยไม่สามารถทำให้อัตราภาษีลดลงมาอยู่ในระดับที่แข่งขันกับอินโดนีเซียหรือเวียดนาม (ซึ่งได้ดีลที่ 20%) ได้ ก็จะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของสินค้าไทยในตลาดสหรัฐฯ อย่างมีนัยสำคัญ
สำหรับแนวโน้มในช่วงบ่าย นักวิเคราะห์คาดว่าตลาดยังคงแกว่งตัวในกรอบ โดยให้แนวรับที่ 1,150 จุด และแนวต้านที่ 1,165-1,170 จุด ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตามในคืนนี้ คือการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน มิ.ย.ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งมาตรวัดเงินเฟ้อที่อาจส่งผลต่อทิศทางนโยบายดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ต่อไป