“รอง ผบช.ก.” ลุยสอบสุดซอย! แกะรอยเส้นเงินทุจริต 2 เด้ง ทั้งบัญชีเงินบริจาควัดนครสวรรค์-โครงการพุทธอุทยาน พบยอดเงินโอน “สีกาคนสนิท” กว่าร้อยล้าน จ่อเอาผิดพระ-ฆราวาส ลั่นหลักฐานสาวถึงใครพร้อมขอศาลออกหมายจับทันที ไม่มีละเว้น
วันนี้ (22 ก.ค.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการสืบสวนสอบสวนคดีอดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ หรือ “ทิดสฤษดิ์” อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ และเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงอยู่ในพื้นที่เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เนื่องจากพบข้อพิรุธหลายเรื่อง รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับการลาออกของรักษาการผู้อำนวยการ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) วิทยาเขตนครสวรรค์ และความเกี่ยวข้องของบุคคลอื่นๆ ซึ่งทั้งหมดนี้จะต้องมีการสอบปากคำและเก็บรวบรวมหลักฐานอย่างละเอียด
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบหลักฐานสำคัญที่บ่งชี้ว่ามีการยักย้ายเงินของวัดนครสวรรค์ ซึ่งเป็นเงินบริจาคจากประชาชน ไปเข้าบัญชีส่วนตัวของสีกาคนสนิทอย่างน้อย 2 ราย โดยหนึ่งในนั้นมียอดเงินหมุนเวียนที่ผิดปกติสูงถึงกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งแกะรอยและตรวจสอบทรัพย์สินที่ได้มาว่ามีความเชื่อมโยงกันอย่างไร
“เรื่องนี้เป็นเรื่องของพระพุทธศาสนาที่เสื่อมเสีย เราจะปล่อยให้คนไม่ดีมาอาศัยผ้าเหลืองหากินไม่ได้ ใครก็ตามที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นพระหรือฆราวาส เราจะดำเนินคดีถึงที่สุด ไม่มีละเว้น” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว
นอกจากประเด็นเงินบริจาคของวัดแล้ว คณะทำงานยังได้เข้าตรวจสอบโครงการก่อสร้าง “พุทธอุทยานนครสวรรค์” ซึ่งเป็นเมกะโปรเจกต์ที่ระดมทุนจากประชาชนไปกว่า 600 ล้านบาท แต่กลับมีการก่อสร้างที่ล่าช้าและไม่แล้วเสร็จเป็นเวลานานเกือบ 10 ปี โดยพบว่าเงินในบัญชีโครงการเหลือเพียงหลักล้านบาท
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวย้ำว่า หากรวบรวมพยานหลักฐานทั้งเอกสารและพยานบุคคลได้ชัดเจนเพียงพอ จะเร่งดำเนินการขออนุมัติศาลเพื่อออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดในข้อหาทุจริตยักยอกทรัพย์และอาจรวมถึงข้อหาฟอกเงิน โดยจะไม่มีการละเว้น ไม่ว่าผู้กระทำผิดจะอยู่ในสถานะใดก็ตาม เพื่อสร้างความโปร่งใสและเรียกคืนศรัทธาของประชาชนกลับคืนมา