Home FeatureSpotlight คอลัมน์: คมข่าว 1/5/67

คอลัมน์: คมข่าว 1/5/67

by admin

การเมืองในกะลา!!! “เพื่อไทยถลุงงบ สธ. PR อุ้งอิ๊ง” จับตา “มาริษ เสงี่ยมพงษ์” ผงาดคุมบัวแก้ว จับตาเกาะกูดอธิปไตยไทยใช่กัมพูชา “เดินดงคมข่าว” สลดหดหู่ใจยิ่งนัก หลังการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) “เศรษฐา1/1” การไขก๊อกของ “ปานปรีย์ พหิทธานุกร” ถูกปรับออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และเจ้าตัวได้ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ภายหลังจากมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ครม. ถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการเมืองไทย ประหนึ่งการตีแสกหน้าผู้นำรัฐบาลที่ชื่อ “เศรษฐา ทวีสิน” …★★… “เดินดงคมข่าว” รับรู้มาว่าเบื้องลึกเบื้องหลังของหมากเกมนี้ มิได้เกิดจากสาเหตุเพียงแค่ “ปานปรีย์” ถูกปรับออกจากรองนายกฯ เท่านั้น หากแต่ยังมีเรื่องที่ใหญ่โตกว่านั้น โดยเฉพาะการเปิดดีลลับกับ “สมเด็จฮุนเซ็น” อดีตผู้นำกัมพูชาที่มีต่อ “นายใหญ่บ้านจันทร์ส่องหล้า” นช.ทักษิณ ชินวัตร อันมีเนื้อหาที่จ้องจะแสวงหาประโยชน์จากแหล่งพลังงานบริเวณพื้นที่เกาะกูด ที่กัมพูชามักกล่าวอ้างเสมอว่าเป็นพื้นที่ของตนหรือพื้นที่ทับซ้อน ขณะที้ตลอดระยะเวลาที่มีการหยิบยกรณีนี้มาหารือกัน “ปานปรีย์” ยืนยันนอนยันอย่างหนักแน่นว่า “เกาะกูดอธิปไตยของไทย…ไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อน 100%” พิสูจน์ได้จากการลากเส้นแบ่งเขตเป็นที่ยอมรับนานาประเทศ ต่างจากกัมพูชาที่มักจะวางตัวเป็นนักเลงโตอาศัยความสัมพันธ์กับอดีตเพื่อนรักทักษิณ โมเมเหมาเอาเป็นของกัมพูชาตามอำเภอใจ …★★

โปรดเกล้าฯ แล้ว “มาริษ เสงี่ยมพงษ์” เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ “เดินดงคมข่าว” หวังใจว่า อดีตที่ปรึกษาปานปรีย์จะมีจุดยืนกรณีเกาะกูดอธิปไตยของไทย อย่าได้แปรเปลี่ยนนับจากนี้ และอย่าได้หลงกลลมปากของคนทุศีลอย่าง นช.ทักษิณ ชินวัตร ที่ใช้กลเพทุบายหลบหนีอาญาแผ่นดิน กลับมาก็มิได้สำนึกถึงบาปกรรมที่ย่ำยีบ้านเมือง สถาบันไว้เช่นไร ซ้ำร้ายยังมีหน้าขอพระราชทานอภัยโทษ ครั้นได้รับพระมหากรุณาธิคุณอภัยโทษจาก 8 ปี เหลือ 1 ปี ก็มิได้ยินยอมที่จะติดคุก หากแต่ใช่เล่ห์เพทุบายนอนป่วยอยู่ รพ.ตำรวจ และได้รับสิทธิพักโทษ ที่เลวร้ายกว่านั้น นช.ทักษิณยังให้สัมภาษณ์สื่อว่า สงกรานต์ปี 2568 น้องสาว-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะกลับมาเล่นสงกรานต์ เพราะมีคดีไม่ได้สลับซับซ้อนอะไร ผิดกับตัว นช.ทักษิณ ที่เขายืนยันว่า “ถูกยัดมาเยอะ” หมายถึงถูกใส่ร้ายป้ายสีนั่นเอง อย่างนี้ก็เท่ากับว่า นช.ทักษิณถวายฎีกาเท็จ เขามิได้สำนึกถึงกระทำที่เลวร้าย ทุจริตสร้างความเสียหายให้กับบ้านเมืองเลยแม้แต่น้อย …★★… การปรับ ครม.เศรษฐา 1/1 เกิดขึ้นหลังจากที่นายกฯ นิด เดินทางไปพบกับ นช.ทักษิณ ที่โรงแรมแห่งหนึ่งกลางกรุงเทพมหานคร ออกข่าวเสียใหญ่โต ประหนึ่งต้องการให้สังคมรับรู้ว่า เขานี่ล่ะคือนายกฯ ตัวจริงเสียงจริง เรียกว่า “ขบวนการกวนโอ๊ย” ก็คงจะไม่ผิดนัก ส่วนลูกหาบอย่าง ส.ส.เพื่อไทย ก็ออกมาแสดงความยินดีกับคนที่มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการแก้ไขกฎระเบียบกรมราชทัณฑ์ จนทำให้ นช.ทักษิณ ไม่ต้องติดคุกแม้แต่วันเดียว เป็นใครไปไม่ได้นอกจาก “สมศักดิ์ เทพสุทิน” ที่ผงาดยึดเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จาก “หมอชลน่าน ศรีแก้ว” อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ยอมตระบัดสัตย์ กระทำทุกวิถีทางตามใบสั่งผู้มีอำนาจ ผสมพันธุ์ลุง ถีบพรรคสีส้ม เพราะที่ผ่านมามันแค่สโลแกนกลยุทธการหาเสียงเท่านั้น นี่คือศิลปะของคนพรรคเพื่อไทย ที่ไร้สัจจะศักดิ์ศรี ส่วนตำแหน่งรัฐมนตรี ส.ส.เพื่อไทยก็ออกมาปลอบโยนหมอชลน่านว่า “ตำแหน่งรัฐมนตรีเปรียบเป็นสมบัติผลัดกันชม” อย่าได้เศร้าโศกเสียใจไปเลย ส.ส.เพื่อไทยคิดได้แค่นี้ เห็นตำแหน่งรัฐมนตรีเป็นสมบัติที่ผลัดเปลี่ยนกันชม เข้ามากอบโกยผลประโยชน์ แล้วประชาชนจะยืนอยู่จุดใดของบ้านเมืองนี้กันเล่า???? …★★

★★… “เดินดงคมข่าว” มีโอกาสไปโรงพยาบาลในจังหวัดนนทบุรี รพ.บางบัวทอง และ รพ.พระนั่งเกล้า เห็นป้ายโปสเตอร์ขนาดยักษ์ติดอยู่หน้าโรงพยาบาล มีภาพของนายกฯ นิด, แพรทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และหมอชลน่าน” มีเนื้อหาแสดงผลงาน 30 บาทรักษาทุกโรคได้ทุกโรงพยาล เริ่มเดือนพฤษภาคมนี้ หากไม่คิดอะไรมากก็คงปล่อยผ่านไป แต่นี่เคยมีคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ.185/2559 ห้ามใช้งบประมาณแผ่นดินประชาสัมพันธ์นักการเมือง เสนาบดี ถือเป็นการเบียดบังเงินแผ่นดินเพื่อสร้างชื่อเสียงประชาสัมพันธ์ตนเอง จึงเป็นการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมาย คำถามคือ แม้แต่รูป “หมอชลน่าน” เจ้ากระทรวงสาธารณสุข หรือนายกฯ ก็ไม่มีสิทธิที่จะหาเสียงประชาสัมพันธ์เช่นนี้ ยิ่งเห็นภาพนางอุ้งอิ๊งเด่นสง่าอยู่ตามโรงพยาบาลต่างๆ ก็ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า “เหตุใดพรรคเพื่อไทย…มักจะทำเรื่องผิดกฎหมาย ระเบียบราชการ” ไม่ทราบว่ารับดีเอ็นเอจากฝ่ายพ่อหรืออา หรือมันจะเป็นกันอย่างนี้ทั้งตระกูลก็สุดจะคาดเดา เพราะการกระทำทั้งปวงที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องที่ขัดต่อกฎหมาย!!!! …★★

★★… กระแสข่าวปรับย้ายข้าราชการระดับสูงในกระทรวงอุตสาหกรรมหนาหูขึ้นทุกขณะ สงสัยครั้งนี้จะยื้อไว้ไม่อยู่ โดยเฉพาะ “จุลพงษ์ ทวีศรี” อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม แม้จะมีสกุลใกล้เคียงกับ “ทวีสิน” ว่ากันว่าครั้งนี้อาจตกเก้าอี้อธิบดีไปนั่งตบยุงรองปลัดฯ ที่มีผลงานไม่เข้าตากรรมการ แม้แต่นายกฯ ยังตำหนิ กรณีเพลิงไหม้บริษัท วิน โพรเสส จำกัด ในพื้นที่จังหวัดระยอง ทั้งที่โรงงานแห่งนี้มีปัญหาถูกสั่งปิด เหตุไฉนจึงปล่อยปละละเลยเช่นนี้ รวมถึงการขนย้ายกากขยะพิษในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครที่ไร้ประสิทธิภาพ ว่ากันว่าทั้งอธิบดีกรมโรงงาน และปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมนี่เส้นใหญ่ เห็น “มาดามปุ้ย” พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็น “รมต.บ้านนอก” ไม่รู้ประสีประสา ข้าราชการกระทรวงอุตสาหกรรมพากันเม้าท์กันสนั่น “เดินดงคมข่าว” ก็ไม่เคยพบเจอนะว่าข้าราชการจะตั้งตนเป็นใหญ่เหนือรัฐมนตรี เรื่องนี้คงต้องติดตามกันต่อไป เพราะก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวปลดเด้งบิ๊กข้าราชการอุตสาหกรรมมาหลายเดือนแล้ว แต่ก็มีบรรดาสื่อมวลชนในคอก คอยเขียนเชลียร์เชิดชูผลงานข้าราชการซื่อสัตย์ ไม่โกง ไม่กิน ไม่เคยรับใช้นายทุนหน้าไหน??? เขาว่ากันอย่างนั้น จะจริงหรือไม่เจ้าตัวรู้ดีอยู่แก่ใจ วินๆ เบทๆ ใครทำอะไรก็รับกันไป ความลับไม่มีในโลก สวัสดี.

“เดินดงคมข่าว”

Related Articles

Leave a Comment