“ดีเอสไอ” บุกค้น 5 จุด “ชลบุรี-ชุมพร-ระนอง” พบ “ส่งออกทิพย์” เครือข่ายน้ำมันโกฟุก ปมโกงภาษีรัฐสูญรายได้ 2.8 หมื่นล้าน หลังทางการพม่ายืนยันไม่มีบริษัทฯ รับซื้อน้ำมันในพม่า
จากกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ทำการสอบสวนในคดีพิเศษที่ 116/2563 หรือคดีที่นายสง่า กังวาล หรือ “โกฟุก” ผู้ต้องหารายสำคัญตามหมายจับของศาล ร่วมกันกระทำทุจริตเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศ ในเรื่องของการสร้างหลักฐานเท็จนำน้ำมันของบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC ไปขายยังประเทศเมียนมา แต่ความจริงไม่ได้มีการขายน้ำมันให้ประเทศเมียนมาแต่อย่างใด โดยมีการสร้างบริษัทปลอมในประเทศเมียนมา ว่าเป็นผู้ซื้อน้ำมันจาก IRPC แล้วนำน้ำมันกลับเข้ามาขายในประเทศไทย พร้อมขอคืนภาษี โดยกระทำลักษณะดังกล่าวมากว่า 10 ปี ทำรัฐสูญเสียภาษีนับหมื่นล้านบาท เบื้องต้นเข้าข่ายมีความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 ,พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 ,ประมวลกฎหมายรัษฎากร และกฎหมายฟอกเงิน
ก่อนนำเงินที่ได้มาฟอกในธุรกิจเว็บไซต์พนันออนไลน์ โดยนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จในระบบคอมพิวเตอร์ หลอกลวงให้ประชาชนเข้าซื้อรางวัลเลขท้ายรางวัลที่ 1 และรางวัลเลขท้าย 2 ตัว โดยอ้างอิงผลการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล รวมทั้งนำผลการออกรางวัลสลากของประเทศต่างๆ มาประกอบในการเชิญชวนให้มีการเล่นพนันในหลายเว็บไซต์ เบื้องต้นพบเงินหมุนเวียนในระบบกว่า 1,000 ล้านบาท ต่อมา “ดีเอสไอ” จึงรับไว้เป็นคดีพิเศษที่ 10/2567
โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้เปิดปฏิบัติการตรวจค้นเครือข่ายโกฟุก ทั้งหมด 27 เป้าหมายทั่วประเทศ ในพื้นที่ กทม. และ จ.ระนอง สามารถจับกุมได้แล้ว 7 ราย สำหรับการตรวจค้นได้มีการยึดทรัพย์สิน ประเภทรถยนต์หรู ทองรูปพรรณ สินค้าแบรนด์เนม อาวุธปืน และอื่นๆ เป็นจำนวนมาก ส่วน “โกฟุก” ได้ชิงหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 มี.ค. พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมพนักงานสอบสวน และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ ร่วมกันนำหมายค้นศาลอาญารัชดา เข้าตรวจค้นบริษัท ทีพีทีเอ็ม โลจิสติกส์ จำกัด (หรือบริษัท น้ำโขง โลจิสติกส์ฯ) เลขที่ 279/6 หมู่ที่ 6 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี สถานประกอบกิจการขนส่งน้ำมันไปต่างประเทศ โดยเฉพาะการขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมทางถนน และทำการตรวจยึดพยานเอกสารและพยานวัตถุเพื่อนำไปขยายผลทางคดี
พ.ต.ต.ยุทธนา เปิดเผยภายหลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย ว่า “ดีเอสไอ” ได้เปิดปฏิบัติการจำนวน 5 พื้นที่เป้าหมาย ประกอบด้วย จ.ชลบุรี 3 จุด, จ.ระนอง 1 จุด และ จ.ชุมพร 1 จุด เพื่อเป็นการพิสูจน์ทราบการกระทำความผิดของเครือข่ายโกฟุก โดยเป็นพฤติกรรมทุจริตภาษีน้ำมัน ด้วยการสำแดงน้ำมันออกนอกราชอาณาจักร แต่ว่าไม่ได้มีการนำออกไปทั้งหมดตามที่มีการสำแดงไว้ อาจจะมีการวนกลับมาจำหน่ายภายในประเทศ
“พฤติการณ์ของคดีนี้มีเหตุอันควรสงสัยว่าโกฟุก หรือนายสง่า กับพวก ได้ร่วมกันหลอกลวงใช้ชื่อบริษัทผู้ซื้อคือ บริษัท Chindwin สัญชาติเมียนมา ซึ่งไม่มีอยู่จริง มาสร้างนิติกรรมอำพราง โดยแสดงเอกสารเท็จเป็นหนังสือแต่งตั้งเป็นตัวแทนผู้ซื้อ เพื่อใช้เป็นคู่ค้าหรือคู่สัญญาในการทำธุรกรรมซื้อน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อจะได้รับสิทธิเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ ๐ ทำให้ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่นำไปขายให้กับกลุ่มของนายสง่า เป็นราคาที่ถูกกว่าราคาตลาด ผู้กระทำความผิดจึงอาศัยช่องทางนี้ในการซื้อน้ำมันราคาถูก และยังมีพฤติการณ์อันควรสงสัย ในการลักลอบหนีศุลกากรนำน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาจำหน่ายเอากำไรภายในประเทศ ทำให้รัฐสูญเสียรายได้กว่า 28,000 ล้านบาท” พ.ต.ต.ยุทธนา ระบุ
อย่างไรก็ตาม การตรวจค้นในวันนี้ สถานที่แห่งนี้ถือเป็นบริษัทโลจิสติกส์ รับว่าจ้างขนส่งน้ำมัน ดังนั้นเราจะมาดูว่าบันทึกข้อมูลที่มีการเก็บไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ว่า บริษัทแห่งนี้มีการขนส่งน้ำมันไปยังปลายทางใดบ้าง และเกิดขึ้นในห้วงเวลาใด ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานและรอผลการประเมินจัดเก็บจากภาษีสรรพสามิตและภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งหน่วยงานจะเป็นผู้ประเมินให้เราว่าภาษีนั้นขาดไปจำนวนเท่าไรเพื่อนำไปประกอบการดำเนินคดี
ทั้งนี้ พบข้อมูลด้วยว่าบริษัทแห่งนี้ได้มีการขนส่งน้ำมันไปยังจังหวัดทางพื้นที่ภาคใต้และภาคเหนือ เช่น จ.ระนอง, จ.เชียงราย เป็นต้น โดยเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2557-2561
ส่วนสิ่งที่ตรวจยึดได้นั้น พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า ส่วนใหญ่เป็นข้อมูลทางด้านเอกสาร เป็นไฟล์ข้อมูล อาทิ ไฟล์ข้อมูลเกี่ยวกับการควบคุมรถขนส่ง อีเมล์ เอกสารทางการเงิน เป็นต้น แต่ก็ต้องนำไปวิเคราะห์ความเชื่อมโยงก่อน ส่วนบริษัทแห่งนี้จะเป็นนอมินีของกลุ่มผู้กระทำความผิดหรือไม่นั้น ตนมองว่าอาจจะไม่ใช่นอมินี แต่เป็นสถานที่สำหรับรับจ้างขนส่งน้ำมัน ถือเป็นการขนส่งโดยทั่วไป แต่เพียงแค่พบความเชื่อมโยงว่า บริษัทแห่งนี้ไปขนส่งสินค้าน้ำมันให้กับกลุ่มนายโกฟุก จะรู้เห็นหรือไม่ก็ต้องพิสูจน์ต่อไป รวมถึงประเด็นที่ว่ามีการวิ่งรถเปล่าหรือไม่ ก็ต้องพิสูจน์เช่นกัน
พ.ต.ต.ยุทธนา ระบุด้วยว่า ดีเอสไอได้รับทราบว่าบริษัทแห่งนี้จะมีกลุ่มแอปพลิเคชันไลน์เพื่อจัดวางหน้าที่ โดยจะต้องมีออร์เดอร์มาก่อนว่าให้ขนส่งสินค้าน้ำมันไปที่ใด จากนั้นพนักงานจะทำหน้าที่ขับรถไปส่ง และรถแต่ละคันที่รับหน้าที่ขนส่งจะมี GPS ประจำรถ มีการบันทึกเลขไมล์ การระบุพิกัดต้นทาง-ปลายทาง ช่วงวันที่เวลา เราก็จะเอาข้อมูลในส่วนนี้ไปวิเคราะห์ด้วย