Home FeatureSpotlight คมข่าว 31/5/67

คมข่าว 31/5/67

by admin

กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา “คมข่าว” ขยี้ข่าวร้อนสุดสัปดาห์ 31 พ.ค.2567 จับตาเดือน มิ.ย.ลุ้นระทึกแหกดีล “นช.ทักษิณ ชินวัตร” และชะตากรรมของนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน เขย่าเสถียรภาพรัฐบาลเพื่อไทย ลับลวงพราง ปฏิบัติการเลี้ยงหลานแค่ผายลม นช.ทักษิณเล่นใหญ่ ตามจังหวะบ่างช่างยุ เปิดหน้าทวงคืนอำนาจทางการเมือง ประหนึ่งผู้เฒ่ากิเลสหนาลืมวันตาย ถึงขั้นป่วยฉับพลันทันด่วน ต้องเลือกตัวช่วยไวรัสโควิด-19 เป็นข้ออ้างไม่ไปตามนัดอัยการ และขอเลื่อนพบอัยการเป็นวันที่ 25 มิ.ย. แต่กลับถูกปฏิเสธทันควัน พร้อมยืนยันคำสั่งฟ้องฐานความผิดในคดีอาญา มาตรา 112 และความผิดนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีโทษสูงเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศ โดยอัยการนัดหมายให้ นช.ทักษิณมารายงานตัวเพื่อนำตัวส่งฟ้องศาลในวันที่ 18 มิ.ย.นี้ …★★… ก่อนหน้านี้ “เดินดงคมข่าว” สดับฟังความเห็นนักวิชาการบางคน ที่ออกมาเชลียร์ “นายใหญ่” แบบไร้ยางอาย มีสาระสำคัญว่า ฝ่ายขวาหมดตัวเล่น จำเป็นต้องพึ่งบุญบารมีวาสนา นช.ทักษิณ เป็นแม่ทัพรบพุ่งกับพรรคสีส้ม ซ้ำยังสำทับว่า ไม่มีองค์กรอิสระ หรือข้าราชการคนใดจะกล้าประกาศตัวเป็นปรปักษ์กับ “นายใหญ่” พูดง่ายๆ ก็คือ อัยการสูงสุดจะไม่กล้าสั่งฟ้อง นช.ทักษิณ และคณะกรรมการกฤษฎีกาจะต้องก้มหน้าก้มตารับบาปแทนผู้นำรัฐบาล กรณีนายเศรษฐา ทวีสิน เสนอบุคคลต้องห้ามฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรงนำเสนอทูลเกล้าฯ เป็นรัฐมนตรี ซึ่งกรณีนี้ศาลรัฐธรรมนูญจะมีวินิจฉัยไม่สั่งฟ้องนายใหญ่อย่างแน่นอน ปฏิบัติการนักวิชาเกินเหล่านี้ ที่ดำรงตนเสมือนเป็นปรสิตนายใหญ่ กำลังเป็นสายล่อฟ้าท้าทายต่อกฎหมายบ้านเมือง โดยเฉพาะองค์กรอิสระ ข้าราชการ ที่มีหน้าที่รักษากฎหมายบ้านเมือง จักยอมตนเป็นทาสรับใช้ความไม่ถูกต้อง คนทุศีลกระทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะการอาฆาตมาดร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์หรือไม่ เป็นประเด็นใหญ่ที่คนในสังคมไทยจับจ้องมองอยู่อย่างจดจ่อ จนวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา ก็ทำให้คนไทยยิ้มได้ เมื่อสำนักงานอัยการสูงสุดทำหน้าที่อย่างกล้าหาญ สมกับที่โฆษก อสส.แถลงยืนยันว่า อสส.เป็นองค์กรอิสระที่เทิดทูนจงรักภักดีในสถาบันฯ เช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป …★★… “เดินดงคมข่าว” จับตาทุกก้าวย่างของทักษิณ ตั้งแต่ป่วยทิพทย์นอน รพ.ตำรวจ วีไอพีชั้น 14 ไม่ต้องติดคุกแม้แต่วันเดียว ไม่สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในหลวงที่ทรงเมตตาพระราชทานอภัยโทษจากจำคุก 8 ปี เหลือเพียง 1 ปี ทว่า “นายใหญ่” และสมุนก็ได้ตระเตรียมกฎกติกาเอื้อประโยชน์ให้กับตนเองด้วยการ “พักโทษ” หรือติดคุกที่บ้าน มีอิสระสามารถเดินทางไปไหนต่อไหนได้เช่นคนปกติไม่มีคดีความติดตัว ที่สำคัญยังทำตัวเหนือเมฆเดินทางไปเชียงใหม่ สำรวจทางเดินน้ำ กางแผนที่ ตรวจงานภูเก็ต มีข้าราชการระดับสูง รัฐมนตรีหัวหงอกหัวดำเสนอหน้าคอยต้อนรับ นช.ทักษิณ จัดกองเชียร์เสื้อแดงตะโกนเชียร์กึกก้อง แม้จะไม่ยิ่งใหญ่เหมือนเมื่อ 17 ปีก่อน ด้วยมีคนเสื้อแดงกลับใจ มีสติตื่นรู้แล้วว่าพวกเขาถูกทักษิณหลอกให้เผาบ้านเมือง จนหลายครอบครัวต้องติดคุก โกหกเสียงปืนแตก ทักษิณจะเป็นผู้นำม็อบในกรุงเทพฯ ทั้งหลายทั้งปวง นช.ทักษิณล้วนแต่มุสาคำโตหลอกลวงประชาชนทั้งสิ้น จึงไม่แปลกใจที่จะมีกลุ่มคนเหล่านี้ถือป้ายด่าทอทักษิณ เช่น การไปเยือนที่เมืองย่าโม จนประชาชนที่มีจุดยืนสองฝั่งหวิดจะวางมวยใส่กันมาแล้ว …★★…

★★… วกกลับมาที่ความวุ่นวายกรณี 40 ส.ว. โยนระเบิดใส่นายกฯ เศรษฐา ที่บังอาจแต่งตั้งทนายถุงขนม “พิชิต ชื่นบาน” ดำรงตำแหน่ง รมต.ประจำสำนักนายกฯ และศาลรัฐธรรมนูญได้รับคำร้องไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งไทม์ไลน์การชี้ชะตาของ “เดอะ เซลส์แมน” ก็น่าจะอยู่ในราวกลางเดือน มิ.ย.นี้เช่นกัน ร้อนถึงขั้นต้องส่งเทียบเชิญไปยัง ดร.วิษณุ เครืองาม ผู้ที่ได้ฉายา “เนติบริกร” มาเป็นที่ปรึกษาของนายกฯ คนป่วยสุขภาพไม่สู้จะดีต้องฟอกไตวันละ 10 ชั่วโมง ผู้กุมบังเหียนดูแลงานด้านกฎหมายให้กับรัฐบาลลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาอย่างยาวนาน และเป็นบุคคลที่ นช.ทักษิณ-เศรษฐา เคยตำหนิด้วยถ้อยคำที่รุนแรง “ไร้ยางอาย” ในการใช้วิชากฎหมายมาห้ำหั่นเขา กาลกลับวันนี้ พรรคเพื่อไทยก็ตระบัดสัตย์โชว์สื่อ กลืนน้ำลายเรียกใช้บริการ “เนติบริกร” ผู้นี้ ประหนึ่งไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถอดรหัสความคำทำนายทายทักของอดีตนายกฯ ธานินทร์ กรัยวิเชียร ที่ระบุถึง ดร.วิษณุ ว่า “คุณวิษณุเปรียบเป็นผืนทราย…ย่อมถูกน้ำทะเล (การเมือง) ซัดกลืนกินอยู่ตลอดเวลา..แต่ไม่นานน้ำทะเลก็ลด ทรายก็จะกลับมาสวยงามเหมือนเดิม วนเวียนเช่นนี้” กระนั้น ดร.วิษณุ ที่ประกาศจะกลับไปเลี้ยงหลาน สอนหนังสือ ก็ยังต้องหอบสังขารมาเป็นที่ปรึกษาของนายกฯ เศรษฐา ย่อมเป็นเรื่องที่ไม่ปกติธรรมดาอย่างแน่นอน …★★… “เดินดงคมข่าว” อดที่จะขยี้ขยายความพุทธพจน์ที่ ดร.วิษณุ แจกแจงนักข่าวว่า “สุทธิ อสุทฺธิ ปัจฺจัตฺตัง นาญโญ อัญญัง วิโสธเย” แปลว่า “ความบริสุทธิหรือไม่บริสุทธิ ย่อมรู้อยู่แก่ตัว คนอื่นใครเล่าจะทำให้เราบริสุทธิได้ น่าสนใจตรงที่ “เนติบริกร” ยืนกรานว่า การคัมแบ๊คครั้งนี้ มิได้มีเป้าหมายช่วยเหลือ นช.ทักษิณ หรือนำอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลับประเทศไทย เพราะเป็นเรื่องที่ศาลพิพากษาแล้ว ยิ่งลักษณ์จะกลับมาก็แค่ซื้อตั๋วเครื่องบินจากอังกฤษ สิงคโปร์ หรือดูไบ บินมาไทยก็จบ แต่จะต้องรับโทษติดคุก 5 ปีตามคำพิพากษา …★★…

★★… การประกาศบารมี “นายใหญ่” ที่จะนำน้องสาวสุดที่รักกลับมาเล่นสงกรานต์ในปี 2568 ที่ดูแสนง่ายดาย ถึงชั่วโมงนี้เชื่อว่าคงไม่ง่ายอย่างที่คิดไว้เสียแล้ว เพราะการเดินสายของ นช.ทักษิณ แม้จะมีกองเชียร์แหแหนติดตาม กระนั้นก็ย่อมมีคนที่ไม่ชอบขี้หน้าพากันสาปแช่งด่าทอเช่นกัน แม้ นช.ทักษิณ จะได้รับการพักโทษ มีอิสระเสรี ไม่ต้องใส่กำไลอีเอ็ม แต่ดูเหมือนว่าวันนี้ มาตรา 112 กำลังทำหน้าที่ประหนี่งเป็น “กำไลอีเอ็ม ผูกคอทักษิณ” อย่าได้แสดงอำนาจบารมีคับฟ้าเช่นนี้ กรุงศรีอโยธยาไม่สิ้นคนดี กรุงเทพมหานครเมืองอมรนี้ ย่อมไม่สิ้นคนดีเช่นกัน อย่าเหิมเกริมหลงบุญอำนาจวาสนาเก่าก่อนในอดีต จะมาฉายแสงยิ่งใหญ่ คงเป็นไปไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง …★★… ส่วนบรรดาทีมกฎหมายถุงขนมก็คงผุพังไปตามกาลเวลา ยิ่งแก้ยิ่งยุ่งเหมือนลิงแก้แห แหกดีลหรือดีลแตก โดยเฉพาะเสียงเล็ดรอดที่ดังออกมาจากพรรคเพื่อไทยในห้วงเวลา กรณีนายใหญ่ถูกอัยการสั่งฟ้องข้อหาหมิ่นสถาบันตามมาตรา 112 นัยว่า ความคิดที่เกิดขึ้นนี้ มิได้เกิดจาก นช.ทักษิณปากเปราะ ผีเจาะปากมาพูด หากแต่เป็นผลพวงของการรัฐประหาร ฟันธงความเห็นของทีมกฎหมายเพื่อไทยย่อมหมายความว่า  ควรแก้กฎหมายมาตรา 112 เพราะเป็นความผิดทางการเมือง “เดินดงคมข่าว” ต้องขอกราบเรียนทีมกฎหมายเพื่อไทยว่า มาตรา 112 เป็นกฎหมายเกี่ยวกับสถาบันความมั่นคงของชาติ หากจะเกี่ยวกับการเมือง ก็เพราะมีอดีตนายกฯ เฮงซวยไปให้สัมภาษณ์สื่อท้องถิ่นที่กรุงโซล เกาหลีใต้ บิดเบือนให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ต่างหาก เป็นเวรกรรมของนักการเมืองหน้าไหว้หลังหลอก “ลิงหลอกเจ้า” ไม่ใช่คดีการเมือง แต่เป็นคดีของอดีตนักการเมืองที่ไร้สามัญสำนึกที่มีต้อสถาบันต่างหาก และหากเพื่อไทยจะจับมือเดินเกมแก้ไขมาตรา 112 กับพรรคก้าวไกลที่มีส.ส.และแกนนำตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ ถูกศาลพิพากษาความผิดมาตรา 112 เป็นเข่ง ก็จะถูกสังคมมองว่าการเสนอแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 นี้ ไม่มีความชอบธรรม และทำเพื่อผลประโยชน์ให้กับพรรคพวกตัวเองทั้งสิ้น ด้วยไม่มีคนดีหรือคนไทยส่วนใหญ่ติดคุกเพราะมาตรา 112 สุดท้าย “เดินดงคมข่าว” หวังใจอย่างยิ่งว่า อดีตผู้นำทักษิณ ชินวัตร จะหายป่วยไข้จากโควิด-19 เร็ววัน และเชื้อร้ายคงไม่ลามถึงปอด จนปอดแหก ไม่สามารถมาตามนัดอัยการ เพื่อต่อสู้ความบริสุทธิ์ตามกระบวนการยุติธรรม และคงไม่หลบหน้าหนีจากมาตุภูมิแผ่นดินแม่ ซ้ำรอย 17 ปีที่ผ่านมา และคงต้องวัดดวงกันไปว่า ศาลจะให้ประกันหรือไม่ เพราะเคยมีประวัติหลบหนีอาญาแผ่นดิน และเดินสายในต่างแดนยุยงปลุกปั่นประชาชนจนกลายเป็นสงครามกลางเมือง ให้ร้ายสถาบันข้ามทวีปมาแล้ว ศาลท่านจะรับผิดชอบไหวหรือไม่ หาก นช.ทักษิณปอดแหกหนีคดี หรือจะใช้กลยุทธสู้ไป 3 ศาล ก็กินเวลาเกือบสิบปี กว่าจะถึงวันนั้น นช.ทักษิณ คงแก่งอม แล้วค่อยหาทางแก้ไขกฎระเบีบราชทัณฑ์อีกรอบก็ย่อมได้ จัดไป

“เดินดงคมข่าว”

Related Articles

Leave a Comment