“ทำผิด…กลับตัว ทำชั่ว…กลับใจ อย่าบ่นว่าทั้งชีวิต ทำชั่วมาแสนยาวไกล ขอให้รู้เอาไว้…ถนนยาวแค่ไหน? ก็ยังจะมี “จุดกลับรถ” ให้เป็นระยะๆ ได้กลับตัว…กลับใจ!!!” นายสัปดาป…หยิบเอา “คำพระ” มาเตือนใจ…ใครหน้าไหนก็ตาม? ที่คิดและทำไม่ดีกับบ้านเมืองที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยปกปักรักษา ระวัง! จะไม่มีแผ่นดินอยู่? กับคอลัมน์กอสซิป “คมข่าว” สำนักข่าว ACN Hot News ณ สัปดาห์ที่ 2 ของเดือนกันยายน 2567…★★…นโยบายแจกเงินหมื่น…ถอยก็โดนด่า เดินหน้าก็เสียหาย ไม่ว่าจะจ่ายเป็นเงินสด หรือจ่ายในรูปของ ดิจิทัล วอลเล็ต ก็มีประเด็นปัญหาตามมา ถามว่า…นโยบายพรรค์นี้ “สวดยอด…แน่นะอิ๊ง?” ไหนว่าลูกยังเล็ก…แล้วยังฝืน ยืนซด “แก๊งนักร้อง” ที่คอย “จ้องเขมือบ” ตามยุทธการ “นิติสงคราม” คราวหน้า…ขอที อย่าได้มีนโยบาย “ฉลาดส่องใส” เยี่ยงนี้อีก ไอ้ที่บอก…เม็ดเงินไหลเข้าระบบเกือบ 5 แสนล้านบาท หวังจะ กระตุ้นเศรษฐกิจ ทำเอาวลี Multiplier หรือ “ตัวคูณ” ใช้หมุนเศรษฐกิจสัก 3-4 รอบ สะดุด&ชะงัก! นาทีนี้…มีคนยืนหอบและตีหน้าเซ่อ ตั้งแต่…กลุ่มยืนหัวแถว ยันแถวหลังท้ายสุด กลางทำเนียบรัฐบาล จำไว้…ใช่ว่า “ทักษิโณมิกส์” ที่เคยรุ่งโรจน์และโดดเด่นเมื่อวันวาน จะเฉิดฉายได้ในวันนี้ ฮ่วย!!!…★★…ชัดเจนแล้ว? ฟังจากปาก “นายกฯ อิ๊ง – แพทองธาร ชินวัตร” และ ผู้จัดการรัฐบาล “รองฯ อ้วน – ภูมิธรรม เวชยชัย” รวมถึง รองฯ พิชัย ชุณหวชิร คนรับผิดชอบเศรษฐกิจมหภาค ที่พูดตรงกัน แจก “นำรอง” กลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคน รับเงินสด 10,000 บาท ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หลังจากวันที่ 20 กันยายนนี้ไปแล้ว ส่วนที่เหลือ กลุ่มใหญ่ 30 ล้านคน ดูอาการแล้ว คงแยกเป็น 2 ขยัก ทั้งแจกเงินสดและแจกออนไลน์ผ่าน “ดิจิทัล วอลเล็ต” รอบแรกคงปลายปีนี้ อีกก้อนคงราวต้นปีหน้า ปัญหาอยู่ที่ว่า…มันจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริงหรือ??? ไหนบอกว่า…เม็ดเงินที่รัฐบาลอัดใส่ 4-5 แสนล้านบาท จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ทั่วประเทศ ตามที่อยู่ในบัตรประชาชน ได้มากถึง 3-4 รอบไง?…★★…เอาเข้าจริง! ไม่เพียงจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้ไม่มาก ทว่าสิ่งที่ รัฐบาล เคยกังวลใจว่า…เม็ดเงินที่แจกจ่ายไปนั้น จะไหลเข้ากระเป๋าของบรรดา “เจ้าสัวรายใหญ่” และ ที่ร้ายกว่านั้น…คนรับแจกเงิน จะนำเงินไปซื้อ สินค้านำเข้า หรือสินค้าที่มีส่วนผสมของวัตถุดิบนำเข้ามาจากต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ กระทั่ง เงินหมื่นไหลกองรวมกันออกนอกประเทศ ไปกับสินค้าประเภท…โทรศัพท์มือ เครื่องใช้ไฟฟ้า และสารพันสินค้านำเข้าอื่นๆ สุดท้าย…“รัฐบาลแพทองธาร” จะใช้อะไรเป็น “ตัวชี้วัด” ถึง ความสำเร็จและล้มเหลว ของโครงการแจกเงินหมื่น ที่หลายคน “ระดับนำ” ในสังคมไทย เคยคัดค้านมาก่อนแล้ว เรื่องทำนองนี้…ถึงไม่อยากเห็น ไม่อยากได้ยิน แต่ลงเป็นอีหรอบนี้แล้ว คงเลี่ยงได้ยาก กับ ผลประจักษ์ในความไม่คุ้มค่า ของการใช้เม็ดเงินมหาศาลกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยวิธีการนี้…★★…
นี่ยังไม่นับรวมคดีอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นตามมา หลังจาก “รัฐบาลแพทองธาร” ได้แถลงนโยบายฯ ต่อรัฐสภา ระหว่างวันที่ 12-13 กันยายน 2567 โดยเฉพาะปม “แจกเงินหมื่น” แล้วไม่เกิดความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ เพราะนาทีนี้ ก็มีคำร้องไปยังองค์กรอิสระไปแล้วรวมกัน 10 คำร้อง ตามที่บรรดา “นักร้อง” ทางการเมืองชั้นแนวหน้า 4 ราย “เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ” – “นพรุจ วรชิตวุฒิกุล” อดีตแกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006 “สนธิญา สวัสดี” และ “บุคคลนิรนาม” ส่วนเขาคนนั้นจะเป็นใคร? ลองไปถาม “ไพบูลย์ นิติตะวัน” เลขาฯ ป้ายแดง พรรคพลังประชารัฐ ดู…คนนี้…เขารู้ดีว่าเป็นใคร? ทั้งหมดพุ่งเป้าไปที่ “นายกฯ อิ๊ง – แพทองธาร ชินวัตร” และพรรคเพื่อไทย เป็นหลัก โดยชงเรื่องไปให้ ป.ป.ช. 3 เรื่อง กกต. 6 เรื่อง และ สำนักงานอัยการสูงสุด อีก 1 เรื่อง ส่วนรายละเอียดเป็นอย่างไร? ลองค้นหากันดูไม่ยาก ข้อมูลในโลกออนไลน์มีเพียบ! …★★…เห็นว่า “นายกฯ อิ๊ง – แพทองธาร ชินวัตร” ได้เตรียม “ทีมกฎหมาย – มือดี” เอาไว้…เพื่อรับมือบรรดา “นักร้อง” กันไปบ้างแล้ว แถมสิ่งที่ “รองฯ อ้วน – ภูมิธรรม เวชยชัย” ประกาศว่าจะ “เอาคืน” กับบรรดา “นักร้อง” ที่ยื่นคำร้องแบบ ไร้สาระ…ไม่ก่อประโยชน์ใดๆ ต่อสาธารณชน ด้วยแล้ว ประสาคนชอบสุมไฟใส่ฟืน!…“นายสันดาป” ขอยกมือเชียร์สุดใจ เอาให้พังกันไปข้างนึง หรือจะพังทั้ง 2 ฝ่ายแล้วทำให้แผ่นดินนี้สูงขึ้น! ทำได้เลย และขอให้ทำกันอย่างเต็มที่ อย่าได้มีรายการ “ซูเอี๋ย” กันเด็ดขาด! งานนี้…วิญญูชนพึงเชื่อได้ว่า…“ลุงคนนั้น” ถึงแม้ไม่ได้ชักใยอยู่เบื้องหลัง แต่ก็คงมีส่วนรู้เห็นเป็นใจให้กับบรรดา “นักร้อง” ในสังกัด เป็นอย่างดีเพราะงานนี้…แค้นต้องชำระ!!! …★★…หลังการประชุม “ครม.จริง – นัดแรก” 17 กันยายนนี้เชื่อว่า…วลีหลอนหู “คนไทย…มีกิน…มีใช้…มีเกียรติ…มีศักดิ์ศรี…ไปพร้อมๆ กัน” คงดังกระหึ่มเมือง! ไปกับ 10 นโยบายเร่งด่วน ของ “รัฐบาลแพทองธาร” เป็นแน่!ส่วนจะ สัมฤทธิ์ผลแค่ไหน? กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ “ฝีมือคน!” ที่แน่ๆ งานนี้ “นายกฯ อิ๊ง – แพทองธาร ชินวัตร” สั่งการให้ รัฐมนตรีแต่ละกระทรวง ที่ได้รับมอบหมายงานในความรับผิดชอบไปดำเนินการ ต้องกลับมารายงานผลความคืบหน้าของเนื้องาน กันแล้ว งานนี้…ถ้า “ครูใหญ่ – อิ๊ง” และ “ซูเปอร์ที่ปรึกษาฯ – ทักษิณ ชินวัตร” ตรวจงานกันแบบเอาจริงเอาจัง? ใครไม่ผ่าน…ถูกปลดออก! ล่ะก็ เชื่อว่า…เนื้องานจะเดินหน้า และได้สัมฤทธิ์ผลตามเป้าหมาย แต่หากยังคงจะ “ลูบหน้าปะจมูก” เกรงใจพรรคร่วมรัฐบาลล่ะก็ งานนี้…อาจมีเจ๊ง!!!…★★…ภูมิใจไทย…น่าจะเป็นเพียงพรรคการเมืองเดียว ที่ “นายกฯ อิ๊ง – แพทองธาร ชินวัตร” และ “ทักษิณ ชินวัตร” อาจต้องเกรงใจ? เพราะอีกฝ่าย…มิเพียงเป็น “พรรคร่วมหลัก” ของรัฐบาล หากยังมี “วุฒิสภา” คอยให้การสนับสนุนการทำงาน ทั้งใน “สภาบน” และ “รัฐสภา” ดังนั้น ความเกรงใจ…จึงเป็นคุณสมบัติของคนที่ยึด “ความอยู่รอด” เป็นหลักใช้ในการบริหารจัดการผลประโยชน์ทางการเมือง กระนั้น ก็มีบางเรื่องที่ พรรครัฐบาล และ พรรคฝ่ายค้าน จะทำงานสอดรับเป็นเนื้อเดียวกันได้ นั่นคือ เดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ จุดที่เป็นปัญหา “ใหญ่หลวงและหนักอก” ของนักการเมือง โดยเฉพาะ ขอบเขตอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ ในการ สั่งยุบพรรคการเมืองและตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค รวมถึง การวินิจฉัย ในสิ่งที่จับต้องได้ยากและกว้างไกลเกินขอบเขต อย่าง…วลีที่บอกว่า “มีเหตุให้เชื่อได้ว่า…” “วิญญูชนพึงรับรู้ได้ว่า…” “จริยธรรม – ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์” ฯลฯ ง่ายสุด…แล้วให้ สส.ทั้ง 2 ฝ่าย ลงชื่อร่วมกันยื่นขอแก้ไขรัฐธรรมนูญบางมาตรา เลือกเฉพาะมาตราที่ก่อปัญหาข้างต้น!…★★…
ที่จริง! สิ่งที่ “นายสันดาป” จะพูดต่อไปนี้ ควรจะหยิบขึ้นมาเขียนถึงก่อน แต่เพราะเป็นเรื่องใหญ่ที่ควรจะไหล “จากบนลงล่าง” จึงต้องย้ายเอามาอยู่ในช่วงท้ายๆ เพราะมันสำคัญมาก ก็อย่างที่เคยเขียนถึงไปบ้างแล้ว ที่ผ่านมา…รัฐบาลไทย ต้องตั้งงบประมาณขึ้นมา เพื่อแก้ไขผลกระทบจากปัญหา “น้ำท่วม” ยังไม่ทันจบดี!…ก็ต้องจัดเตรียมงบประมาณ “สู้ภัยแล้ง!” กันอีกแล้ว??? ใครที่ได้เห็น ภาพข่าวโทรทัศน์จาก จีน และเวียดนาม ที่ต่างก็ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจาก ซูเปอร์ไต้ฝุ่น “ยางิ” ซึ่งทำให้มี…คนตาย สูญหาย และบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก บ้านเรือนไร่นาต่างได้รับความเสียหายอย่างยากจะประเมินได้ สิ่งนี้…มันยากจะรับมือ เพราะเป็นเรื่องของมหาวาตะภัยและอุทกภัยจากธรรมชาติ…★★…หันดู ประเทศไทย…เราโชคดีขนาดไหน? เมื่อ “ที่ตั้ง” ของประเทศ…อยู่ในจุดที่ รายล้อมด้วยประเทศเพื่อนบ้าน กว่า “ซูเปอร์ไต้ฝุ่น” ไม่ว่าจะมีชื่ออะไร? พัดถึงเขตแผ่นดินไทย ก็จะ ลดระดับความรุนแรงลง จนเหลือเพียงแค่ “หางพายุ” กระนั้น แค่นี้…ก็สร้างปัญหาน้ำท่วม ทะลักไหลไปในหลายพื้นที่ แล้ว หาก “รัฐบาลแพทองธาร” จะหยิบเอาเรื่องราวเหล่านี้มา “ถอดบทเรียน” สร้าง “คัมภีร์การต่อสู้ – ปกป้อง” ประเทศไทยและคนไทย จาก ภัยน้ำท่วมและภัยแล้ง อย่างเป็นระบบ มีการ วางแผนในเชิงยุทธศาสตร์ อย่างจริงจังแล้ว กลยุทธ์ “เปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส” จาก…ฤดูน้ำหลาก แล้วทำให้ ประเทศไทย…ได้มีน้ำกักเก็บไว้ใช้ เมื่อต้องก้าวเข้าสู่ ฤดูแล้ง…ขาดแคลนน้ำ แก้ตรงนี้ได้…ไม่เพียงประหยัดงบประมาณแผ่นดินปีละหลายหมื่นล้านบาท หากยังจะได้ ทั้งใจและคะแนนเสียง จากคนไทย…ไหลกลับคืนมาได้บ้าง…★★…แนวคิดของ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์” กับนโยบายเรื่องของ “ฟลัดเวย์” หรือ “ทางด่วนน้ำยกระดับ” ก็น่าที่ “รัฐบาลแพทองธาร” ควรจะนำมา ปัดฝุ่น…ศึกษาและสานต่อ กันได้ สิ่งนี้…น่าจะสอดรับกับข้อเสนอของ “ทักษิณ ชินวัตร” ที่เสนอให้รัฐบาล เร่งสร้างกำแพงและถมทะเลสร้างเมืองใหม่บริเวณอ่าวไทย เพื่อช่วยมิให้ กรุงเทพฯ ต้องจมน้ำ เพราะข้อเท็จจริงคือ วันนี้…หาก เครื่องสูบน้ำขนาดยักษ์ หลายตัวแถบเมืองสมุทรปราการ เกิดปัญหาไฟดับหรือขัดข้องถึงขั้นเสียหายขึ้นมาละก็ ปัญหาที่เคย ซุกใต้พรม นั่นคือ ปม…“น้ำทะเลสูงกว่าแผ่นดินกรุงเทพฯและสมุทรปรากการ” จะถูกประจานด้วยอาการ “เมืองจมน้ำ” ในทันที!…★★…ล่าสุด เห็นข่าว “ถมทะเลสร้างเมืองใหม่” ที่ “ปลอดประสพ สุรัสวดี” ประธานคณะกรรมการนโยบาย 5 สิ่งแวดล้อม พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์สื่อบางค่าย ทำนอง…มีข้อเสนอให้รัฐบาลเดินหน้าถมทะเลสร้าง 9 เกาะ (เมืองใหม่) ครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่…ทะเลช่วงสมุทรสงครามไปถึงชลบุรี รวมระยะทางประมาณ 100-150 กิโลเมตร โดยเกาะหรือเมืองใหม่..มีลักษณะสอดรับกับชื่อที่คิดกันไว้ นั่นคือ “สร้อยไข่มุกอ่าวไทย” แล้วทำให้แต่ละเกาะ (เมืองใหม่) ร้อยกันเหมือน “สร้อยไข่มุก” มีการสร้างประตูน้ำช่วงรอยต่อของเกาะ “กั้นน้ำขึ้น-ลง” โดยแต่ละรอยต่อของเกาะ (เมืองใหม่) จะเชื่อมต่อกันด้วยถนนและรถไฟฟ้าถึงกัน แค่ฟังก็มันส์แล้ว…ว่าแต่จะเอาเงินที่ไหนมาสร้าง หรือจะเปิดสัมปทาน 99 ปีให้ทุนต่างชาติมาลงทุนสร้างไปก่อน ก็ต้องบอกกันล่วงหน้า? …★★…ว่าแต่…ทุกเรื่อง “เมกะโปรเจ็กต์” ของ “รัฐบาลแพทองธาร” ที่ได้ “ทักษิณ ชินวัตร” ทำหน้าที่เป็น…ซูเปอร์ที่ปรึกษาฯ ล้วนอยู่ในข่ายที่ “ดึงดูดความสนใจ” ของ นักลงทุนและคนทั่วโลก ได้ดีนักแล ดีๆ พอกับ “กวักมือ…เรียกแขก” ให้ บรรดา “นักร้อง” ต่างเริ่ม ขยับตัว…วางงาน กันบ้างแล้ว!!! ส่วนจะออกหน้าไหน? นายสันดาป เองก็ไม่แน่ใจว่า…จะได้เห็น “เมกะโปรเจ็กต์” ขนาดนี้….ในยุคสมัยนี้ เอาเป็นว่า…วันนี้พอแค่นี้ แล้วพบกันใหม่สัปดาห์หน้าแล้วกัน!!!
นายสัปดาป
