Home Feature ‘อิตาเลียนไทย’ ให้ปากคำ ‘ดีเอสไอ’ แจงปมร่วมค้า ‘ไชน่าเรลเวย์’ ลุยสอบ 10 วิศวกร-เทียบลายเซ็น

‘อิตาเลียนไทย’ ให้ปากคำ ‘ดีเอสไอ’ แจงปมร่วมค้า ‘ไชน่าเรลเวย์’ ลุยสอบ 10 วิศวกร-เทียบลายเซ็น

by admin

รองประธานบริหารอาวุโส  “อิตาเลียนไทย” เข้าให้ปากคำ “ดีเอสไอ” เคลียร์ปมกิจการร่วมค้าฯ “ไชน่าเรลเวย์” พร้อมแจงสัญญาก่อสร้างตึก สตง. ตั้งแต่การประมูลงาน-แบ่งงานก่อสร้าง รวมค่าตอบแทน ขณะที่เรียกสอบ 10 วิศวกร เปรียบเทียบลายเซ็นในเอกสารโครงการ ปูดไม่ใช่โครงการแรกที่ร่วมมือ “ทุนจีน” ยังมีงานสร้างสถานที่ราชการสำคัญใจกลางกรุง

จากกรณีคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 32/2568 นำโดย ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการพิเศษ (ปพ.) ร่วมกันควบคุมตัว นายชวนหลิง จาง (Mr.Chuanling Zhang) สัญชาติจีน กรรมการบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ต้องหารายสำคัญ ตามหมายจับศาลอาญาที่ 2389/2568 ลงวันที่ 18 เม.ย.68 ในข้อหาเป็นคนต่างด้าวที่ประกอบธุรกิจซึ่งต้องห้ามมิให้คนต่างด้าวประกอบกิจการหรือต้องได้รับอนุญาตก่อน และเป็นนิติบุคคลซึ่งรู้เห็นเป็นใจกับการกระทำความผิดนั้น ตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 มาตรา 37 และมาตรา 41 ไปยื่นคำร้องฝากขังผัดแรกต่อศาลอาญารัชดาภิเษก

ขณะที่ 3 กรรมการคนไทยของบริษัทไชน่า เรลเวย์ฯ ประกอบด้วย นายประจวบ ศิริเขตร ถือหุ้น 10.2% ,นายมานัส ศรีอนันท์ ถือหุ้น 0.0003% และนายโสภณ มีชัย ถือหุ้น 40.7997% ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาในความผิดเดียวกัน ได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ก่อนถูกควบคุมตัวสอบสวนปากคำ และยื่นคำร้องฝากขังผัดแรกต่อศาลอาญารัชดาภิเษก ปัจจุบันทั้ง 4 ผู้ต้องหาได้รับคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราวพร้อมกำหนดเงื่อนไขตามที่ศาลกำหนด

ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (29 เม.ย.) ที่ห้องประชุมกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ หรือ “กองคดีฮั้วประมูล” ศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 32/2568 ได้นัดหมายสอบสวนปากคำพยาน คือ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) กรณีเป็นกิจการร่วมค้ากับบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ภายใต้สัญญาผู้ก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) โดยมีนายเกรียงศักดิ์ กอวัฒนา รองประธานบริหารอาวุโส บมจ.อิตาเลียนไทยฯ เป็นตัวแทนเข้าให้ปากคำ ในประเด็นที่คณะพนักสอบสวนกำหนด อาทิ รายละเอียดตามสัญญากิจการร่วมค้า มีการแบ่งสัดส่วนกันอย่างไร โดยเฉพาะสัดส่วน 49% ของบริษัทไชน่า เรลเวย์ฯ เนื่องจากบริษัทแห่งนี้ไม่เคยปรากฏเนื้อหาเกี่ยวกับการก่อสร้างมาก่อน

และภายในสัญญาก่อสร้างฉบับนี้ ในฐานะกิจการร่วมค้ามีการแบ่งหน้าที่กันอย่างไร รวมถึงต้องสอบถามด้วยว่า นอกจากสัญญาการก่อสร้างตึก สตง.แห่งนี้ ยังมีสัญญาฉบับอื่นอีกหรือไม่ และใครเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการตัวจริงระหว่างบริษัทอิตาเลียนไทยฯ กับบริษัทไชน่า เรลเวย์ฯ

ต่อมา พ.ต.ท.อมร หงษ์ศรีทอง ผอ.กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ เปิดเผยก่อนเข้าร่วมประชุม ว่า วันนี้นัดสอบพยาน 2 ห้องๆ แรก จะมีวิศวกร 10 รายเข้าให้ปากคำ ซึ่งขณะนี้มาพบพนักงานสอบสวนแล้ว 1 ราย เบื้องต้นยังไม่มีใครขอเลื่อนการสอบปากคำ ส่วนอีกห้องหนึ่งใช้สำหรับสอบปากคำตัวแทนจากบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) โดยนัดหมายเวลา 09.30 น.

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวสังเกตว่าภายในห้องสอบปากคำวิศวกร ได้มีการนำกล่องลังเอกสาร 100 ลัง ที่ตรวจยึดมาจาก 24 ตู้คอนเทนเนอร์ ที่ถูกใช้เป็นสำนักงานชั่วคราวภายในไซต์งานก่อสร้างตึก สตง.มาเก็บไว้ภายในห้อง ซึ่งเป็นเอกสารที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการก่อสร้างและกระบวนการควบคุมงาน รวมถึงเอกสารการเบิกจ่ายเงินต่างๆ และบันทึกการทำงาน โดยหลังจากนี้จะต้องรอพนักงานสอบสวนนัดหมายผู้แทน สตง.และผู้แทนกิจการร่วมค้ามาทำการเปิดตรวจสอบร่วมกัน และชี้แจงอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดี

นายเกรียงศักดิ์ กอวัฒนา รองประธานบริหารอาวุโส บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวลล๊อปเมนต์ ให้สัมภาษณ์สั้นๆ ว่า ขอเข้าพบพนักงานสอบสวนก่อน พร้อมทั้งยอมรับว่า “แน่นอน รู้อยู่แล้วว่าบริษัทไชน่า เรลเวย์ฯ เป็นบริษัทสัญชาติจีน และตนพร้อมชี้แจง” ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสังเกตว่า นายเกรียงศักดิ์ได้นำแฟ้มเอกสาร 1 แฟ้ม ที่มีโลโก้ตราบริษัทอิตาเลียนไทยฯ มาด้วย

ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานเพิ่มเติมว่า จากการสืบสวนเชิงลึกของดีเอสไอ ปรากฏข้อเท็จจริงว่าทั้งบริษัทอิตาเลียนไทยฯ และบริษัทไชน่า เรลเวย์ฯ เคยมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันมาก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างสถานที่ราชการสำคัญแห่งหนึ่งใจกลางกรุงเทพฯ ดังนั้นโครงการก่อสร้างอาคาร สตง.จึงไม่ใช่โครงการแรกที่ทั้งสองบริษัทดำเนินการร่วมกัน จึงเป็นไปไม่ได้ที่บริษัทอิตาเลียนไทยฯ จะไม่รู้ว่าบริษัทไชน่า เรลเวย์ฯ เป็นบริษัทสัญชาติจีน

Related Articles