Home Feature สยบลือปฏิวัติ! ‘กองทัพ’ หนุน รบ. ย้ำคำมั่น 3 ข้อ ‘ทรงวิทย์’ แถลงต่อหน้า ‘นายกฯ-ออกญากลาโหม’

สยบลือปฏิวัติ! ‘กองทัพ’ หนุน รบ. ย้ำคำมั่น 3 ข้อ ‘ทรงวิทย์’ แถลงต่อหน้า ‘นายกฯ-ออกญากลาโหม’

by admin

“แพทองธาร” ถก สมช. ยัน “รัฐบาล-กองทัพ” เป็นเอกภาพ! ยันไม่มีใครทำงานช้า ชี้ให้หน้างานประเมินสถานการณ์ แต่ยึด “สันติ” ให้มากที่สุด ชี้ปะทะไปเสียหายมากกว่า “บิ๊กอ้วน” ลั่นยึดมั่นปกป้องอธิปไตย แต่จำกัดวงขัดแย้งให้มากที่สุด “การต่างประเทศ-การทหาร” ต้องไปด้วยกัน พร้อมตั้งวอร์รูมสื่อสารทางเดียวกัน สกัดเฟคนิวส์-ทำเข้าใจผิด “มาริษ” ยังมั่นใจกลไกทวิภาคี ช่วยสางพิพาทชายแดน เผยเวที JBC 14 มิ.ย. เน้นคุยเรื่องจุดปะทะ “ทรงวิทย์” ผบ.ทสส. สยบข่าวลือปฏิวัติ! กองทัพปฎิบัติหน้าที่ตาม รธน. ย้ำคำมั่น 3 ข้อ แถลงต่อหน้า “นายกฯ-ออกญากลาโหม” พร้อมหนุนรัฐบาลแก้ปัญหาคลี่คลายสถานการณ์ด้วยสันติวิธี

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันนี้ (6 มิ.ย.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังประชุมสภาความมั่นคง (สมช.) ว่า ได้พูดคุยถึงมาตรการต่างๆ ที่พร้อมรับมือ ซึ่งภาพที่ออกไปเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. เห็นว่ารองนายกฯ และกองทัพ ได้คุยกับทางกัมพูชา ทุกอย่างยังโอเค เราคุยกันว่าทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นกองทัพหรือรัฐบาล มาปรึกษากันก่อนดำเนินการใดๆ เราทราบหน้าที่ของตัวเอง เราต้องความเอกภาพในการทำงานทั้งหมด

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ไม่อยากให้เกิดกระแสหรือปลุกปั่นใดๆ ว่ากองทัพกับรัฐบาลมีปัญหากัน ซึ่งไม่มีปัญหาอะไรเลย มีการทำงานสนับสนุนกันอย่างดี และมีอำนาจหน้าที่อะไรต่างๆ ก็เคลียร์กันให้หมดว่า ถึงหน้างานกองทัพสามารถตัดสินใจได้เลย ซึ่งในกรอบก็เข้าใจกันดี ยังไม่มีความรุนแรงที่ขยายมากยิ่งขึ้น ทางกองทัพเองก็ยืนยันในการจำกัดความรุนแรงไม่ให้เกิดขึ้น ซึ่งเป็นแนวทางที่รัฐบาลสนับสนุน

ขณะที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวว่า วันนี้ได้พูดคุยกันบนหลักการที่ว่า “เราจะต้องยึดมั่นในหลักการปกป้องอธิปไตยของประเทศ” และดำรงความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งนี้ เราได้พูดคุยกับทุกฝ่าย หลักสำคัญมี 3 ด้านคือ ด้านการต่างประเทศ ด้านกองทัพ และด้านการสื่อสาร ที่ได้มีการปรับให้ชัดเจนและมาร่วมกันทำงานให้มากขึ้น ในส่วนของกองทัพขอยืนยันว่า เราพร้อมรักษาเอกราชอธิปไตยของประเทศ และบูรณภาพแห่งดินแดนอันนี้เป็นเรื่องที่ชัดเจน ซึ่งได้คุยเป็นเนื้อเดียวกันแล้ว

นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า เรื่องการสื่อสารได้ตกลงกันแล้วว่า กระทรวงการต่างประเทศเป็นเจ้าภาพหลัก โดยประสานให้โฆษกกระทรวงกลาโหม โฆษกกองทัพบก โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ทำงานร่วมกัน เพื่อไม่ให้เกิดบรรยากาศที่จะทำให้การเจรจา หรือการหาข้อสรุปเกิดขึ้นยากลำบาก

“ขอยืนยันอีกครั้งว่า สมช. เราได้ตกลงและเห็นพ้องต้องกันว่า เรื่องอธิปไตยเป็นเรื่องสำคัญหลักที่เราจะต้องดูแลกันอย่างเต็มที่ ส่วนเรื่องอื่นๆ เราจะประคองให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีและไม่เกิดการเสียประโยชน์ทั้งในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน เพราะเรายังมีภาระความจำเป็นที่ต้องร่วมมือกันอีก ฉะนั้นความขัดแย้งอยากให้จำกัดวงมากที่สุด”

ด้าน นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมเพื่อให้เกิดการบูรณาการร่วมกัน มีเอกภาพร่วมกัน ในส่วนของการต่างประเทศและการทหารต้องไปด้วยกันเป็นเนื้อเดียวกัน ในส่วนของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากทั้ง 2 ประเทศมีสัมพันธ์ที่ดีมาอย่างยาวนาน เพราะฉะนั้นเราเห็นพ้องกันว่า การเจรจากับฝ่ายกัมพูชา ต้องใช้กลไกที่เรามีอยู่ในปัจจุบันเป็นหลัก คือ ทวิภาคี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นสิ่งที่ผู้นำทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยกันมาตั้งแต่ต้นคือ ใช้กลไกที่มีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น JBC-RBC-GBC เป็นกลไกหลักอยู่ในขณะนี้

และเป้าหมายการเจรจาโดยเฉพาะยิ่งในวันที่ 14 มิ.ย. ที่จะเกิดขึ้นระหว่างคณะกรรมการร่วมของทั้ง 2 ฝ่าย จะเน้นในเรื่องของจุดปะทะ เพื่อแก้ปัญหาการกระทบกระทั่งกัน เรื่องอื่นๆ เราจะยังไม่ให้ความสำคัญตอนนี้ เราจะพูดถึงการแก้ไขปัญหาในเรื่องที่มีการเผชิญหน้าและลดความตรึงเครียดในกรอบของกำลังทหารร่วมกันให้เป็นเรื่องเป็นราวเสียก่อน แต่อย่างไรก็ตาม JBC มีหน้าที่อยู่แล้วที่จะเจรจาเรื่องเขตแดน เพราะฉะนั้น จะดำเนินการไปพร้อมกัน แต่สำคัญคือ จะเป็นการพูดคุยเพื่อลดความรุนแรงและลดบรรยากาศที่จะมีการกระทบกระทั่งกันเป็นหลัก จึงขอเรียนว่า เราจะใช้กลไกที่มีอยู่แล้วคือ ทวิภาคีเป็นหลักก่อน

สำหรับในส่วนของการชี้แจง จะมีการประสานกลไกร่วมกัน ทั้งในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศ กองทัพบก และกระทรวงกลาโหม เพื่อสื่อสารออกไปให้ประชาชนเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างไปในทิศทางเดียวกัน รวมถึงในเรื่องของข่าวสาร ขอความกรุณาช่วยกันเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดยิ่งขึ้นไปมากกว่านี้ ขอยืนยันว่า การต่างประเทศและการทหารไปด้วยกันอย่างเป็นเนื้อเดียวกันแน่นอน

ด้าน พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) กล่าวว่า ประเด็นแรกได้เน้นย้ำว่ากองทัพสนับสนุนรัฐบาลในการแก้ปัญหาและคลี่คลายสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาด้วยสันติวิธี

ส่วนเรื่องที่ 2 กองทัพได้ปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญในการรักษาอธิปไตย และคุ้มครองปกป้องประชาชนตามแนวชายแดน ซึ่งได้ดำเนินการมาตลอด

เรื่องที่ 3 ยืนยันว่า ในการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพวันนี้ เป็นการประชุมตามวงรอบปกติทุก 2 เดือน ซึ่งมีการพูดคุยเกี่ยวกับสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ในลักษณะสนับสนุนแนวทางของรัฐบาลและ สมช. โดยการสื่อสารจะให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน

ในตอนท้าย รองนายกฯ ภูมิธรรม กล่าวเสริมว่า พิจารณาทุกมาตรการขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และสภาวะที่เห็นแล้วว่าควรดำเนินการตรงไหน ทุกอย่างเตรียมการไว้หมดแล้ว กองทัพหน้างานเป็นอย่างไร ได้คุยกันทุกหน่วยแล้ว ยืนยันเราไม่ได้ถอยแต่ขอให้ปรับกำลัง และทุกฝ่ายไม่อยากให้เกิดสงคราม

Related Articles