คอลัมน์ “คมข่าว” สุดสัปดาห์ 12 ก.ค.67 เสียงก่นด่ารัฐบาลเพื่อไทยดังสนั่นไปทุกหย่อมหญ้า การตอบกระทู้สด “ก้าวไกล” ทำหน้าที่ทวงถามรัฐบาลแทนประชาชนที่กำลังเดือดร้อนจากภาวะเศรษฐกิจที่ไร้อนาคต “ไหม-ศิริกัญญา ตันสกุล” ถามถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นของรัฐบาล การใช้งบกลางปี 67-68 นโยบายเรือธงแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตหมื่นบาท ฉุดรั้งทำให้รัฐบาลไม่สามารถช่วยเหลือประชาชนได้ หรือคำถามใหญ่แม้ไม่ใช่เรื่องขายชาติ กรณีเปิดให้ต่างชาติถือครองคอนโดมิเนียม 75% ทรัพย์อิงสิทธิ 99 ปี ประชาชนจะได้ประโยชน์อะไร ทว่านายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ไม่ได้ตอบคำถามใดๆ เลย หากแต่พูดโฉบเฉี่ยวหาสาระแก่นสารใดมิได้ “เดินดงคมข่าว” จับความได้ว่า “รัฐบาลจะวิ่งสู้ฟัดฟันฝ่าปัญหาบ้านเมือง…และจะวิ่งสู้กับแรงค้านที่ไร้อนาคต!!!” แปลความเป็นอื่นไปมิได้ แม้นายกฯ จะบ่ายเบี่ยงว่าไม่ได้หมายถึงฝ่ายค้านก็ตาม หากนายกฯ เห็นเป็นเช่นนั้น ประชาชนก็มีสิทธิที่จะมองว่า เรากำลังอยู่กับ “รัฐบาลที่ไร้อนาคต-นายกฯ ที่อาจต้องเกมก่อนครบวาระ 4 ปี” ป่วยการสำหรับการรอคอยให้นายกฯ ที่ต้องสละเวลาออแกไนซ์ทาสีสะพานมาตอบกระทู้สดในสภาฯ ปล่อยให้พี่แกเดินสายทาสีสะพานไปเถิด อีกทั้งการตอบกระทู้สดนายกฯ ก็ใช้เวลาเกิน พูดวกไปวนมาไม่ตรงประเด็น ซึ่งการตอบกระทู้สดต้องสั้นกระชับ ตรงประเด็น คนทำหน้าที่ประธานสภาฯ ก็ปล่อยปละละเลยจนกลายเป็นสภาอลแวงไปเสียฉิบ!!! ส่วนพรรคเพื่อไทยทีเข้าสู่โหมดเสื่อมถอย วิกฤตศรัทธาจากนโยบายไม่ตรงปก แม้แต่คนในพรรคเจ้าพ่อเสื้อแดง “วรชัย เหมะ” กุนซือที่ปรึกษาฝ่ายการเมืองรองนายกฯ ภูมิธรรม เวชชัย ก็ไม่อาจอดทนต่อท่าทีของ “เศรษฐา ทวีสิน” ได้อีกต่อไป ถึงขั้นออกมาสับแหลกว่า ควรเร่งแก้ปัญหาความเดือดร้อนประชาชนเป็นการด่วน ไม่ใช่เดินสายไปต่างประเทศ ทัวร์ต่างจังหวัด แต่ไม่ได้แก้ไขปัญหาใดๆ ให้กับชาวบ้าน …★★… “เดินดงคมข่าว” เพลียใจแทนประชาชนที่กำลังดิ้นรนต่อสู้กับภาวะเศรษฐกิจบักโกรก ชาวไร่ชาวนาก็พลอยเดือดเนื้อร้อนใจกับนโยบายเพื่อไทยที่พูดอย่างทำอย่าง ไม่มีอะไรชัดเจน เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เช่น นโยบายปุ๋ยคนละครึ่ง นายกฯ พูดอย่าง รัฐมนตรีพูดอย่าง ชาวนาเขาลงปุ๋ยเพาะปลูกไปหมดแล้ว รัฐบาลจะมีแจกปุ๋ยแบบมีเงื่อนไขให้ชาวนาต้องนำเงินสดไปประเคนให้นายทุนปุ๋ย ส่วนค่าเก็บเกี่ยวไร่ละ 1 พันบาท จะไม่สนับสนุนอีกต่อไป พอถูกด่าไปทั่วหัวไร่ปลายนา ก็แสดงอาการยึกยักๆ อ้างฟ้าฝนลมแล้งจะพิจารณาช่วยเหลือไร่ละพัน นี่มันรัฐบาลเฮงซวยสับปลับสุดๆ นโยบายแต่ละอย่างไร้แบบแผนพูดไปเรื่อย แม้แต่เรือธงแจกเงินหมื่นก็ชักเข้าชักออก จาก 5 แสนล้าน เหลืออยู่ 4.5 แสนล้าน แหล่งเงินจากธนาคารการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ก็ไม่สามารถใช้ได้แล้ว สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่านโยบายเพื่อไทยเป็นนโยบายแหกตาประชาชน ขาดการศึกษา เป็นแค่วาทกรรมในการหาเสียงเท่านั้น หากเป็นเช่นนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะทำตัวเป็นทองมิรู้ร้อนได้อย่างไร??? ไล่เรียงกันดู “แจกหมื่นบาท” แหล่งที่มาของเงินก็ไม่ชัดเจน ผลลัพธ์ที่จะได้รับ ลดค่าน้ำค่าไฟ ลดค่ารถไฟฟ้า 20 บาททุกสาย ค่าแรง 400 บาท จบ ป.ตรี เงินเดือน 2.5 หมื่นบาท ฯลฯ ทุกอย่างทำทันที สุดท้ายก็แค่นโยบายขายฝัน …★★…
หลายฝ่ายประเมินว่า หากรัฐบาลเพื่อไทยยังบริหารบ้านเมืองแบบไร้แผนที่เช่นนี้ “ทักษิณ ชินวัตร” ก็ควรเตรียมใจที่จะรับความพ่ายแพ้ที่จะถาโถมแบบล็อกถล่มได้ในศึกเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้า ยิ่ง “แพทองธาร ชินวัตร” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แสดงความแข็งกร้าว เพื่อสร้างภาพความเป็นผู้นำรับไม้ต่อจากเศรษฐา ทวีสิน หากมีอันต้องตกจากเก้าอี้นายกฯ ด้วยผลพวงของคดีต่างๆ ก็จะยิ่งจะทำให้เสถียรภาพของพรรคเพื่อไทยระส่ำระสายอย่างไม่ต้องสงสัย สดๆ ร้อนๆ เห็นจะเป็นกรณี “วัน อยู่บำรุง” ถูกอุ้งอิ๊งเรียกเข้าไปอบรมมารยาททางการเมือง หลังจากที่ “วัน” และพ่อเฉลิม อยู่บำรุง เดินทางไปให้กำลังใจ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ระหว่างการนับคะแนนเลือกนายกฯ อบจ.ปทุมธานี น้ำตาลูกผู้ชาย “วัน อยู่บำรุง” สองสามปาดไม่ใช่เรื่องที่ใครจะเห็นกันง่ายๆ แต่เขาก็ได้หลั่งรินให้ประชาชนทั้งประเทศได้เห็นกันแล้ว พร้อมแสดงสปิริตลาออกจากประธานกรรมการที่ปรึกษา รมว.สาธารณสุข และจะลาออกจากสมาชิกเพื่อไทยในลำดับต่อไป เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ “ยอดคุณพ่อ” เฉลิม อยู่บำรุง ที่ก่อนหน้าที่ถูกคนชั้น 14 ตีแสกหน้าด้วยการไม่ให้ตำแหน่งใดๆ กับพ่อลูกคู่นี้ ด้วยข้อหาที่ว่า “กวนโอ๊ยทั้งพ่อลูก “เดินดงคมข่าว” เชื่อว่าคนอย่างป๋าเหลิมที่ประกาศว่า ในเมื่อลูกผมไม่อยู่แล้ว …ผมจะอยู่เพื่อไทยไปทำไม ขอให้พรรคขับเขาออกจากพรรค สิ้นเสียงป๋าเหลิม หัวหน้าเพื่อไทยคนเก่ง ก็ออกมาตีหน้ามั่น ยึดในกฎกติกาปกครองคนหมู่มาก ครั้งนี้ ดิฉันจะไม่ไปงอนง้อที่บ้านบางบอน มีอะไรก็มาที่พรรคเพื่อไทย มาคุยได้ทั้งพ่อทั้งลูก งานนี้ขาดสะบั้นหรือไม่ต้องติดตามกันต่อไป เพราะคนอย่างเฉลิม อยู่บำรุง อยู่บางบอนไม่อาจอยู่กับเพื่อไทยได้อีกต่อไป เพราะคนเราตกได้…แต่ต่ำไม่ได้ เป็นสิ่งที่ตระกูลอยู่บำรุงถือมั่น ถ้า “หัวหน้าอิ๊ง” คิดดีแล้วก็คอยรอรับการสั่งสอนจากเจ้าพ่อบางบอนได้เลย เพราะกำเรื่องดีๆ ของพ่อทักษิณไว้เยอะแยะ …★★…
“เดินดงคมข่าว” เพลียใจแทนประชาชนที่กำลังดิ้นรนต่อสู้กับภาวะเศรษฐกิจบักโกรก ชาวไร่ชาวนาก็พลอยเดือดเนื้อร้อนใจกับนโยบายเพื่อไทยที่พูดอย่างทำอย่าง ไม่มีอะไรชัดเจน เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เช่น นโยบายปุ๋ยคนละครึ่ง นายกฯ พูดอย่าง รัฐมนตรีพูดอย่าง ชาวนาเขาลงปุ๋ยเพาะปลูกไปหมดแล้ว รัฐบาลจะมีแจกปุ๋ยแบบมีเงื่อนไขให้ชาวนาต้องนำเงินสดไปประเคนให้นายทุนปุ๋ย ส่วนค่าเก็บเกี่ยวไร่ละ 1 พันบาท จะไม่สนับสนุนอีกต่อไป พอถูกด่าไปทั่วหัวไร่ปลายนา ก็แสดงอาการยึกยักๆ อ้างฟ้าฝนลมแล้งจะพิจารณาช่วยเหลือไร่ละพัน นี่มันรัฐบาลเฮงซวยสับปลับสุดๆ นโยบายแต่ละอย่างไร้แบบแผนพูดไปเรื่อย แม้แต่เรือธงแจกเงินหมื่นก็ชักเข้าชักออก จาก 5 แสนล้าน เหลืออยู่ 4.5 แสนล้าน แหล่งเงินจากธนาคารการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ก็ไม่สามารถใช้ได้แล้ว สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่านโยบายเพื่อไทยเป็นนโยบายแหกตาประชาชน ขาดการศึกษา เป็นแค่วาทกรรมในการหาเสียงเท่านั้น หากเป็นเช่นนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะทำตัวเป็นทองมิรู้ร้อนได้อย่างไร??? ไล่เรียงกันดู “แจกหมื่นบาท” แหล่งที่มาของเงินก็ไม่ชัดเจน ผลลัพธ์ที่จะได้รับ ลดค่าน้ำค่าไฟ ลดค่ารถไฟฟ้า 20 บาททุกสาย ค่าแรง 400 บาท จบ ป.ตรี เงินเดือน 2.5 หมื่นบาท ฯลฯ ทุกอย่างทำทันที สุดท้ายก็แค่นโยบายขายฝัน …★★… ปิดท้าย “คมข่าว” ประชาชนเดือดร้อนแสนสาหัสจากค่าไฟฟ้าที่แพงหูฉี่ เรียกว่าหาเงินมาจ่ายค่าไฟไม่ไหวกันเสียแล้ว ข้าวของเครื่องใช้อุปโภคบริโภคขึ้นราคาแพงทั้งแผ่นดิน “ภูมิธรรม” จะมีภูมิรู้ช่วยเหลือคลายทุกข์ร้อนให้กับประชาชนได้หรือไม่ หรือดีแต่คอยเสนอหน้าขายข้าว 10 ปีกรุยทางให้ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” กลับไทย สรุปคุณยังทำหน้าที่เป็นรองนายกฯ – รมว.พาณิชย์ พรรคเพื่อไทย หรือพรรคเพื่อชินวัตรกันแน่ ประชาชนอยากรู้ เลือกตั้งครั้งหน้าจะได้กาหัวลงคะแนนให้ถูกช่อง เพราะคงไม่มีใครกล้าฝากความหวังไว้กับรัฐบาลไร้อนาคตได้อีกแล้ว สวัสดี.
“เดินดงคมข่าว”
