คอลัมน์ “คมข่าว” สุดสัปดาห์ 2 สิงหาคม 2567 รัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย ยังคงมุ่งมั่นอยู่กับนโยบายเรือเกลือ “แจกเงินหมื่นบาท” วงเงิน 4.5 แสนล้านบาท วาดฝันสร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจให้เฉิดฉาย ทว่าไร้แผนรองรับกลโกงทุจริต เงื่อนไขการใช้จับจ่าย ยุคข้าวยากหมากแพง หลายคนตั้งเป้า “แลกเงินสด” ครึ่งๆ รับดิจิทัลหมื่นบาท แลกเงินสด 5 พัน แค่ดอกนี้มันจะสร้างพายุหมุนเข้ากระเป๋าใคร ฝันลมๆ แล้งๆ นโยบายเรือเกลือจะไปรอดตลอดฝั่งไหมหนอ??? ต้องมาลุ้นว่า “ศาลปกครอง” จะชี้ชะตาการแจกเงิน 4.5 แสนล้านบาทผิดกฎหมาย และจะสร้างความเสียหายให้กับบ้านเมืองหรือไม่…★★…“เดินดงคมข่าว” ได้ฟังการอภิปรายของ “วีระ ธีรภัทร” สื่อมวลชนอาวุโส ที่ปฏิบัติหน้าที่กรรมาธิการงบประมาณปี 2568 โควตาพรรคก้าวไกล ออกโรงเตือนสติรัฐบาลว่า จัดทำงบประมาณที่มีความสุ่มเสี่ยงใช้เทคนิคจัดทำงบฯ ที่ไม่ตรงไปตรงมา โดยเฉพาะการนำงบก้อนโตไปกับนโยบายแจกเงินดิจิทัล 4.5 แสนล้านบาท กลายเป็นภาระหนี้สินในอนาคต เป็นเพียงนโยบายหาเสียงสนองตัณหาพรรคเพื่อไทย รัฐบาลควรถอนคันเร่งสร้างหนี้ เพราะก่อนหน้านี้รัฐบาลที่ผ่านมาก็ได้กู้ไปมากโข 1.5 ล้านล้านบาท เพื่อแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 จึงไม่มีเหตุผลที่จะจัดทำงบประมาณขาดดุลอย่างต่อเนื่อง…★★…พิษนักโทษเทวดาผลิดอกออกผลเสียแล้ว หลังจากที่มีขบวนการอุ้มสมแม้วติดคุกทิพย์ เสวยสุขอยู่ห้องวีวีไอพีชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ทำลายกระบวนการยุติธรรมป่นปี้ “วสันต์ ภัยหลีกลี้” กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เปิดเผยผลการตรวจสอบ พบว่าเรือนจำพิเศษกรุงเทพ-รพ.ตำรวจ-ผู้เกี่ยวข้องเอื้อประโยชน์ “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 ไม่ต้องนอนคุก เข้าข่ายเลือกปฏิบัติ ขัดหลักเสมอภาค ละเมิดสิทธิมนุษยชน ซ้ำกระทำผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ เตรียมส่งข้อมูลให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เช็กบิลดำเนินคดี การที่ นช.ทักษิณ เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลตำรวจด้วยอาการวิกฤติซึ่งในช่วงแรกเข้าพักที่ชั้น 14 เนื่องจากโรงพยาบาลฯ ให้ข้อมูลว่าเป็นเพียงชั้นเดียวที่มีห้องว่าง แต่หลังจากนั้นปรากฏว่า นายทักษิณยังพักที่ห้องพิเศษดังกล่าวมาโดยตลอด โดยโรงพยาบาลฯ ชี้แจงว่านายทักษิณมีภาวะวิกฤติสลับปกติ ซึ่งหากนายทักษิณป่วยจนอยู่ในระดับวิกฤติตามที่มีการชี้แจงจริง ควรต้องได้รับการดูแลจากบุคลากรทางการแพทย์อย่างใกล้ชิดและพักในห้องสำหรับผู้ป่วยฉุกเฉิน แต่นายทักษิณกลับพักในห้องพิเศษ ซึ่งตามปกติควรมีไว้สำหรับผู้ป่วยที่พ้นจากภาวะวิกฤติและสามารถช่วยเหลือตัวเองได้บ้างแล้ว อย่าคิดว่า “บารมีทักษิณ” จะปกป้องขบวนการอุ้มสมติดคุกทิพย์ได้ เพราะตระกูลชินวัตรที่บริหารบ้านเมืองมาหลายยุคสมัยได้นำพาข้าราชการระดับสูงติดคุกหัวโตเต็มเรือนจำอย่างที่เห็นกันอยู่ทุกวันนี้…★★…
“เดินดงคมข่าว” มั่นใจในผลของกรรมจะทำหน้าที่ได้อย่างสาสม คนคิดคดทรยศชาติ สถาบัน ย่อมไปสู่ภพภูมิไม่ดีแน่ นึกจะป่วยก็ป่วย นึกจะแข็งแรงพ่อก็เดินสายปลุกเร้าหาเสียงลุยถั่วไปเรื่อย สุดท้ายอาการปอดแหก จึงวางหมากเกมขอศาลเดินทางไปนครดูไบ เพื่อรักษาอาการเส้นเอ็นเปื่อย แต่ศาลท่านไม่บ้าจี้ตาม นช.ทักษิณ ชินวัตร ที่กำลังนับวันจะได้รับ “ใบบริสุทธิ์” แต่คดีความผิดหมิ่นสถาบันตามมาตรา 112 ยังเป็นชนักติดหลัง ฟันธงไม่อนุญาตให้ นช.ทักษิณ บินไปดูไบ เพราะเชื่อว่าโรคภัยไข้เจ็บกระจอกๆ อย่างนี้แพทย์ไทยมีความสามารถรักษาได้ ส่วนข้ออ้างที่ว่า มีนัดหมายพบปะบุคคลต่างๆ นั้น เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ใช่สาระที่ผู้ต้องหาหมิ่นสถาบันเบื้องสูงจะใช้เป็นข้ออ้างเพื่อไปดูไบ…★★… 14 สิงหาคมนี้ ศาลรัฐธรรมนูญนัดชี้ชะตาพรรคก้าวไกล กัดเซาะบ่อนทำลายล้มล้างการปกครองหรือไม่?? “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ว่าที่นายกฯ รถแห่ และพลพรรคนับวันรอ หากศาลสั่ง “ยุบพรรคก้าวไกล” ด้อมส้มไปรวมตัวกันที่สถานทูตสหรัฐฯ โอ้อวดว่าสถานทูตมะกันจะเปิดประตูรับด้อมส้ม หากมีการปัดกวาดม็อบ จะได้รู้กันไปว่า อเมริกาเป็นพ่อแม่พรรคการเมืองใด???…★★…อะไรก็ต้องอเมริกันไปเสียหมด โดยเฉพาะพรรคส้มที่อวยมะกันออกนอกหน้า แม้แต่วัคซีนซิโนฟาร์ม ของจีนแผ่นดินใหญ่ พรรคส้มก็เที่ยวออกมาด้อยค่า ยุยงปลุกปั่นให้คนไทยรับวัคซีนสัญชาติอเมริกัน ทว่าพอกาลผ่านไปก็พบว่าวัคซีนมะกันนี่มีผลข้างเคียงและทำให้ผู้ได้รับวัคซีนตายไปแล้วหลายราย ส่วนกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ เองก็ออกมายอมรับว่า ได้ปฏิบัติการด้อยค่าวัคซีนจากแดนมังกร ใช้ทหาร 600 นาย ปฏิบัติการไอโอ จนทำให้ผู้คนทั่วโลกเสียชีวิต โดยเฉพาะที่พิลิปปินส์ที่รอคอยวัคซีนมะกัน ปฏิเสธวัคซีนจีน ทำให้พลเมืองล้มตายเป็นเบือจากโควิด-19 เมื่อฉากทัศน์ที่แท้จริงเป็นเช่นนี้ ไฉนพ่อส้มพากันปิดปากเงียบ เช่นเดียวกับมหาอำนาจมือถือ Apple บริษัทเทคโนโลยีสัญชาติสหรัฐอเมริกา ทำโฆษณาด้อยค่าประเทศไทย ล่าสุดเพิ่งตัดสินใจถอดโฆษณา The Underdogs : OOO ที่ถ่ายทำในประเทศไทยออกจากแพลตฟอร์มยูทูบ พร้อมออกแถลงการณ์ขออภัยที่โฆษณาชิ้นนี้ไม่ได้นำเสนอวิถีชีวิตของประเทศไทยที่เป็นอยู่ในปัจจุบันได้อย่างครบถ้วนและเหมาะสม หลังจากถูกวิจารณ์ทั้งจากคนไทยและชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ว่าโฆษณาดังกล่าวพยายามทำให้ย้อนยุคไปหลายสิบปีก่อน ทำภาพลักษณ์คนไทยดูแย่ในสายตาชาวโลก นี่ล่ะสันดรธาตุแท้อเมริกัน
“เดินดงคมข่าว”
