Home FeatureSpotlight ยุบพรรคส้ม !

ยุบพรรคส้ม !

by admin

เซาะกร่อนบ่อนทำลาย

ซึมลึกถึงเด็ก ม.6

ข้อสอบติ่งส้มวิพากษ์สถาบัน

ไม่ต้องมีศาสนาก็ได้ไง

“คมข่าว” วันนี้ “เดินดงคมข่าว” ขอย้อนรอยคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญตามมาตรา 49 เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2567 ที่มีต่อ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล และพรรคก้าวไกล จำเลยที่ 1 และ 2 ตามลำดับ ที่เสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่) พ.ศ…. เพื่อยกเลิกมาตรา 112 ซึ่งใช้เป็นนโยบายในการหาเสียง เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข สรุปไฮไลท์ที่ชัดเจนที่สุดของคำวินิจฉัยได้ดังนี้

“พฤติกรรมของพิธาและพรรคก้าวไกล เป็นการกระทำการเซาะกร่อน บ่อนทำลายสถาบันเป็นเหตุทำให้ชำรุดทรุดโทรมเสื่อมทราม เข้าลักษณ์ล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข”

ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2564 คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติเอกฉันท์ ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา “ยุบพรรคก้าวไกล” ตามมาตรา 92-93

ส่งผลให้ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” อดีตหัวหน้าพรรค และส.ส.บัญชีรายชื่อก้าวไกล ออกมาเคลื่อนไหว โดยโพสต์ภาพ พร้อมข้อความผ่านอินสตราแกรม @pita.ig ระบุว่า…ไม่มีพวกคุณ ไม่มีพวกเรา ก้าวต่อไปครับ

เช่นเดียวกับ “ชัยธวัช ตุลาธน” หัวหน้าพรรคและ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงแผนการรองรับ หลังจากที่ กกต. มีมติเอกฉันท์ส่งสำนวนคดีให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรค ว่า ตอนนี้ก็เตรียมเรื่องการต่อสู้คดีตามกฎหมายเต็มที่ แม้ว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ อาจทำให้เราต่อสู้ได้ยากมากกว่าในคดีอื่นๆ

“การคิดว่าจะเอาชนะกันทางการเมือง ด้วยการยุบพรรคการเมือง มันไม่ได้ช่วยทำให้อะไรดีขึ้น มีแต่แย่ลง ซ้ำร้ายการยุบพรรคการเมืองด้วยอ้างเหตุผลเรื่องการล้มล้างการปกครอง การเซาะบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ในทางด้านกลับ เรื่องนี้มีความละเอียดอ่อน อาจจะเป็นเรื่องที่เซาะกร่อน บ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ในด้านกลับก็ได้ เพราะยิ่งดึงประเด็นเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์เข้ามาเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทางการเมืองมากขึ้น เรื่องนี้ต้องระมัดระวัง” ชัยธวัช ระบุ

การต่อสู้ของพรรคก้าวไกล และพิธา ที่อ้างต่อศาลรัฐธรรมนูญ ว่า ต้องการเสนอแก้ไขมาตรา 112 เมื่อจำนนด้วยหลักฐานจากผู้ร้อง ด้วยระหว่างการหาเสียงของพรรคก้าวไกล พิธาได้นำสติ๊กเกอร์ “ยกเลิกมาตรา 112” ติดหราบนเวทีซ้ำยังปราศรัยชัดเจนว่า “ยกเลิกมาตรา 112” จึงเป็นพยานหลักฐานแน่นหนาเพียงพอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า มีพฤติกรรมเป็นการกระทำการเซาะกร่อน บ่อนทำลายสถาบัน เป็นเหตุทำให้ชำรุดทรุดโทรมเสื่อมทราม เข้าลักษณะล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข        

ทั้งหลายทั้งปวงคือพฤติกรรมที่สังคม…ยังคงต้องติดตามกันต่อไปว่า “วันนี้ก้าวไกและคณะ…โกหกอะไร???”

โดยเฉพาะแกนนำอย่าง พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่มโนระหว่างเดินทางกลับประเทศไทยช่วงรัฐประหาร เพื่อมาร่วมงานศพบิดาบังเกิดเกล้า โดยเขากล่าวอ้างว่าถูกทหารควบคุมตัว ข่มขู่ แต่สุดท้ายก็ได้รับการปฏิเสธข้อมูลที่ว่าจากผู้ร่วมเดินทางมากับพิธาว่า ไม่เป็นความจริง และยังมีการกล่าวอ้างถึงบ้านพักของคุณยายที่อยู่ในประเทศกัมพูชา จนถูกเจ้าของบ้านตัวจริงออกมาตอกหน้าหงายมาแล้ว

กระนั้นในความสับสนของพรรคส้ม ก็ต้องยอมรับว่า เขามีกองทัพไซเบอร์ที่แข็งแกร่งสามารถตีรบเข้ายึดครองใจคนรุ่นใหม่ และรุ่นแก่ที่หวาดหวั่นเกรงจะถูกบรรดาด้อมส้มกล่าวหาเป็นแค่ “พวกคนแก่รอวันตาย” ตามกล่องความคิดคนรุ่นใหม่ไม่ทัน

ผลผลิตการปลูกฝังข้อมูลด้อมส้ม ไม่ต้องเกณฑ์ทหาร ไม่ต้องหมอบกราบ ไม่จำเป็นต้องนับถือศาสนา และไม่ต้องระลึกถึงบุญคุณบุพการี ผลิดอกออกผลเบ่งบานราวดอกเห็ด เราจึงเห็นคนอย่างยายบุ้งทะลุวัง หรือ “หยกปีนรั้วโรงเรียน” แสดงพฤติกรรมต่ำตมชนิดกู่ไม่กลับ

“เดินดงคมข่าว” เห็นว่าความคิดพลิกฟ้าด้วยฝ่ามือ หมายมั่นจะให้นิ้วของมนุษย์ทั้ง 10 นิ้วเท่าเทียมกันนั้น เป็นความคิดที่เหนือจินตนาการ ที่ดิน ส.ป.ก.4-01 หรือแม้แต่ที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ คนอนาคตใหม่-ก้าวไกล ก็มีปัญหาเป็นคดีรุกป่าเขา ญาติมิตรพ่อแม่พี่น้องถูกดำเนินคดี เพิกถอนสิทธิ น.ส.3 ก. ราชบุรี 59 ฉบับ พื้นที่กว่า 2 พันไร่ นี่หรือรากเหง้าของคนรุ่นใหม่

สิ่งเหล่านี้ สังคมจะต้องนำมาขบคิดพิจารณาให้ถ้วนถี่ มิใช่มองแต่สิทธิตน หรือพรรคที่ฉันเลือกเข้ามา จะทำผิดกฎหมายบ้านเมืองอย่างไรไม่แยแส เพราะใจมันรักหลงไปเสียแล้ว???

จริงเท็จประการใด ต้องไปตรวจสอบข้อสอบปลายภาคโรงเรียนมัธยมวัดธาตุทอง วิชา สาระร่วมสมัย รหัสวิชา ส 33250 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งเป็นข้อสอบฉบับนี้เป็นข้อสอบแบบพูดปากเปล่า (Oral Test) ในรูปแบบ Keyword มีจํานวนทั้งสิ้น 50 ข้อ โดยนักเรียนจะเป็นผู้สุ่มเลือกข้อสอบเอง (โดยการจับฉลาก) นักเรียนมีเวลาอธิบาย Keyword ที่นักเรียนจับฉลากได้ 3 นาที และหลังจากพูดจบ จะมีคําถามจากครูผู้สอน 2 คําถาม และมีเวลาในการตอบคําถามอีก 2 นาที Keyword จะมีความเกี่ยวข้องกับข่าวสาร ข้อมูล เหตุการณ์ที่เป็นประเด็นในประเทศไทย ในสังคมโลก ที่เกิดขึ้นระหว่าง ปี พ.ศ. 2565-2566

ทั้งนี้ ข้อสอบมีเนื้อหาครอบคลุมเกี่ยวกับทุกสาระการเรียนรู้ในวิชาสังคมศึกษา เช่น 112 ,ลี้ภัยทางการเมือง, เสรีทรงผม, เสรีเครื่องแบบนักเรียน, ทลายทุนผูกขาด, ไม่นับถือศาสนา, ค่าแรงขั้นต่ำ, อำนาจนิยมในโรงเรียน, Digital Wallet, สถาบันพระมหากษัตริย์กับสังคมไทย, การสมรสเท่าเทียม, กัญชาเสรี, พุทธพาณิชย์ และ Soft Power เป็นต้น

สุดท้าย ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการ กพฐ. สั่งสอบข้อเท็จจริงข้อสอบ โรงเรียนมัธยมวัดธาตุทอง พร้อมสั่งยกเลิก ข้อสอบ วิชาสาระร่วมสมัย ชั้น ม.6

คำถามในโซเชียลมากมายพอสรุปได้ว่า ข้อสอบเหล่านี้มีวาระซ่อนเร้น ต้องอวยพรรคการเมืองใดหรือไม่ และจะส่งผลต่อการเรียนรู้ของนักเรียนอย่างไร กล่าวคือ หากเด็กนักเรียน แสดงความเห็นต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ในเชิงลบ ครูจะให้คะแนนบวกหรือลบอย่างไร

ส่วนกรณีคำถามที่ว่า คนเราไม่จำเป็นต้องนับถือศาสนานั้น หากนักเรียนตอบว่าไม่จำเป็นต้องนับถือศาสนา เพราะคนเราเชื่อถือตนเองเป็นหลักได้ ความเปราะบางนี้ จะเซาะกร่อนบ่อนทำลายสังคมหรือไม่ ปํญหาสังคมที่ชวนเศร้าใจเช่น ลูกวางยาพ่อแม่ ฆ่าพี่น้อง เพื่อชิงมรดก, ครูอาจารย์ล่อลวงเด็กนักเรียนสาวละเมิดทางเพศ เพราะขาดต้นทุนทางจิตใจศีลธรรมพื้นฐานที่ดีงาม สิ่งเหล่านี้มีอยู่ในคำสอนของศาสนา สำคัญแต่ว่าครูผู้ออกข้อสอบจะมีจิตสำนึกคิดอ่านต่อปัญหาที่เกิดขึ้นเหล่านี้กี่มากน้อย และมีสติปัญญาที่จะพัฒนาอบรมสั่งสอนนักเรียนให้เป็นคนเก่งคนดีมีคุณธรรมได้มากน้อยเพียงใด???

“เดินดงคมข่าว” เห็นว่าผลผลิตเซาะกร่อนบ่อนทำลาย เริ่มลงลึกไปสู่ขาสั้นแล้ว ไม่ใช่เฉพาะในรั้วสถาบันอุดมศึกษาที่พากันเดินเข้าคุกตะราง จากการปลุกปั่นของนักการเมืองที่เห็นแก่ได้ใคร่มี แต่ขาดความรับผิดชอบต่ออนาคตของบ้านเมือง ตัดไฟเสียแต่ต้นลม “ยุบพรรคก้าวไกล” ตัดสิทธิการเมืองนักปลุกปั่นล้มล้างการปกครองฯ หรือไม่ขึ้นอยู่ที่ศาลสถิตยุติธรรม

“เดินดงคมข่าว”

Related Articles

Leave a Comment