“เดินดงคมข่าว” วิเคราะห์วิจารณ์ว่าด้วย DNA ผู้นำการเมืองที่หลุดออกมาจากปาก “นักโทษเทวดา” ทักษิณ ชินวัตร นั่นย่อมหมายความว่า “ทักษิณ” กำลังส่งสัญญาณไปถึงนายกฯ ส้มหล่น “เศรษฐา ทวีสิน” ที่เปรียบเสมือน “ยาใกล้หมดอายุ” หรือไม่ ดูเหมือนว่านักโทษเทวดาจะแสดงความมั่นอกมั่นใจนัยว่า “อำนาจทางการเมือง” คือมรดกของตระกูลชินวัตร กระมัง??? ทำให่เกิดคำถามใหญ่ตามมาว่า….ที่ผ่านมาทักษิณก็ได้ยึดถือปฏิบัติเช่นนั้นจริงๆ หลังจากที่เขาถูกรัฐประหารก็ได้ส่งน้องเขย “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” ขึ้นสู่เก้าอี้นายกฯ แม้จะเป็นนายกฯ มีอายุสั้นๆ จากนั้นก็ส่งน้องสาว “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ก้าวสู่เก้าอี้นายกฯ หญิงคนแรกของประเทศไทยสำเร็จ ที่น่าสนใจก็คือ DNA ผู้นำของเขามีประสิทธิภาพสมบูรณ์แบบเหมือนตัวเขาจริงๆ เมื่อนายกฯ ปู ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีทุจริตโกงบ้านกินเมือง และต้องหลบหนีอาญาแผ่นดินอยู่ในต่างแดนจวบจนปัจจุบันนี้ เหลือทายาทที่ทักษิณหมายมั่นปั้นมือจะส่ง “แพรทองธาร ชินวัตร” หรืออุ๊งอิ๊ง หัวหน้าพรรคเพื่อไทยนั่งเก้าอี้นายกฯ จะมีผลงานเช่นเดียวกับผู้พ่อและอาสาวหรือไม่??? ต้องติดตามกันต่อไป ทว่าเบื้องแรกการโฆษณาชวนเชื่อระหว่างการหาเสียง “อุ๊งอิ๊ง” ก็ถูกนำมารีรันอยู่บ่อยครั้งในโซเชียลมีเดีย “ปิดสวิท 3 ป. คนไทยมีกิน..มีใช้..มีเกียรติ มีศักดิ์ศรีไปพร้อมๆ กันคะ” ตระบัดสัตย์ตั้งแต่ยังไม่มีตำแหน่งแห่งหนทางการเมือง นี่คือ DNA ที่ทักษิณถ่ายทอดพันธุกรรมให้กับบุตรสาวหัวแก้วหัวแหวนหรือไม่??? …★★… หากไม่นำผู้สืบทอดอำนาจทางการเมืองผ่าน DNA สายโลหิต นายกฯ คนปัจจุบันที่เติบโตมาจากอาชีพพ่อค้าขายบ้านจัดสรร “เศรษฐา ทวีสิน” จะมี DNA ผู้นำเฉกเช่นเดียวกับนักโทษเทวดาหรือไม่ เพราะทักษิณก็ถูกศาลตัดสินในคดีทุจริตหลายคดี ซึ่งล้วนแต่เป็นการใช้อำนาจมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคพวกและธุรกิจครอบครัวทั้งสิ้น เรื่องนี้นายหัวชวน หลีกภัย อดีตประธานสภาฯ เคยอภิปรายตีแสกหน้านายกฯ นิด ตั้งแต่วันที่ประชุมสภาฯ นัดแรกแล้ว มีเนื้อหาสาระสำคัญกล่าวคือ นายหัวชวนเตือนสติอย่างตรงไปตรงมาว่า นายกฯ ที่มาจากนักธุรกิจจะไม่ทุจริตละโมบหาผลประโยชน์จากอำนาจวาสนาทางการเมืองเหมือนผู้นำในอดีต ขอเตือนท่านไว้ตรงนี้ ซึ่ง “เศรษฐา” เองก็ให้คำมั่น พร้อมยังขอบคุณในการเตือนสติประหนึ่งเป็นโอวาทจากผู้หลักผู้ใหญ่ แต่ดูวันที่นายชวน หลีกภัย อภิปรายศึกซักฟอกโดยไม่ลงมติ “เศรษฐา” กลับใช้โวหารด้อยค่าพรรคประชาธิปัตย์จะสูญพันธุ์ ส.ส.ย้ายพรรคจะไม่เหลือที่นั่งในสภาฯ โดยไม่ได้แยแสต่อข้อเสนอแนะ หรือชี้แจงอย่างผู้นำที่ชาญฉลาดและมีเหตุผลรองรับ …★★… “เดินดงคมข่าว” ขอโฟกัสไปที่การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังได้เสนอเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ และการเตรียมการเพื่อรองรับการดำเนินการยกระดับประเทศ สู่ศูนย์กลางเมืองอุตสาหกรรมระดับโลก (Thailand Vision) ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวจะมีสาระสำคัญของมาตรการสำคัญในการปรับปรุงมาตรการทางภาษี และค่าธรรมเนียม และมาตรการทางการเงินเพื่อสนับสนุนภาคอสังหาริมทรัพย์ ตามข้อสั่งการของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.คลัง ที่เคยได้มีข้อสั่งการให้กระทรวงการคลังพิจารณาปรับปรุงมาตรการลดค่าธรรมเนียมของภาคอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนมีโอกาสมีที่อยู่อาศัยของตัวเอง รวมทั้งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งมาตรการนี้มีสาระสำคัญ โดยให้ปรับปรุงมาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัยปี 2567 ด้วยการขยายเพดานมูลค่าที่อยู่อาศัยให้ได้รับค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม ทั้งที่เป็นอาคารที่อยู่อาศัยอาคารพาณิชย์ และห้องชุด ในราคาซื้อขายและค่าประเมินทุนทรัพย์ไม่เกิน 7 ล้านบาท และวงเงินจำนองไม่เกิน 7 ล้านบาท พร้อมลดค่าจดทะเบียนโอน จากปกติร้อยละ 2 เหลือร้อยละ 0.01 …★★… หลายคนได้ยินได้ฟ้งก็พากันคอมเม้นสนั่นนัยว่า นายกฯ เศรษฐา ออกลายเสียแล้ว จะซ้ำรอยกับวิธีการของนักโทษเทวดาหรือไม่ ที่ใช้อำนาจทางการเมืองลดค่าสัมปทานโทรศัพท์เคลื่อนที่ อดีตนายกฯ หากินกับดาวเทียมก็ผลักดันกฎหมายเอื้อประโยชน์ให้ตนเองและธุรกิจครอบครัว ส่วนนายกฯ คนนี้หากินกับอิฐหินปูนทราย บ้านจัดสรร ท่านคิดดีแล้วหรือที่จะใช้วิธีการเหล่านี้มาเป็นข้ออ้างในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่นโยบายหาเสียง แจกดิจิทัลวอลเล็ตหมื่นบาท ไม่สามารถที่จะดำเนินการได้อย่างที่โฆษณาหาเสียงไว้ …★★… กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง กรณีคลิปเหตุการณ์ ที่นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ แถลงข่าวการปฏิบัติการทางการแพทย์และบริการสาธารณสุข เพื่อรักษาผู้ป่วยทางเดินหายใจและกลุ่มเปราะบางที่ผ่านมา รวมทั้งมาตรการดูแลประชาชนและนักท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เกิดวิวาทะระหว่างสื่อมวลชนในพื้นที่กับท่านผู้ว่าฯ โดยสื่อเห็นว่าการแถลงสถานการณ์หมอกควันไฟป่าไม่ตรงกับสถานการณ์ความเป็นจริงที่อยู่ในภาวะวิกฤต ทำไม่มีนำข้อมูลที่แท้จริงมาพูด สิ้นเสียงนักข่าวอาวุโส ท่านพ่อเมืองเชียงใหม่ก็ออกมาตอบโต้อย่างมีอารมณ์ พร้อมระบุว่า ตัวเขาไม่มีอำนาจที่จะไปสั่งการให้สื่อเขียนข่าวอย่างไร ไม่ใครสั่งการ ทุกวันนี้สื่อก็นำเสนอข่าวจริงบ้าง เท็จบ้าง ถือเป็นสีสันไม่ได้ติดใจอะไร และที่ผ่านมาก็ทำหน้าที่ของผู้ว่าฯ อย่างเต็มที่แล้ว การโต้แย้งของผู้ว่าฯ ได้นำไปสู่การโต้เถียงของสื่อมวลชนรายอื่นๆ จนที่ประชุมร้อนระอุ “เดินดงคมข่าว” ได้แต่เห็นอกเห็นใจผู้ว่าฯ สื่อ และประชาชนในพื้นที่ ซึ่งกำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากหมอกควัน ไม่เหมือนกับพวกนักการเมืองสร้างภาพขันอาสาดับไฟป่า พูดจาเป็นตุเป็นตะหาเสียงกันสนุกปาก ทั้งอดีตนายกฯ-นายกฯ ตามรัฐธรรมนูญ-นายกฯ รถแห่ สุดท้ายก็เผ่นเปิดตูดออกจากพื้นที่ นักเลือกตั้งมีปากก็พูดไป แต่คนรับกรรมคือประชาชน วิกฤตหรือไม่สำหรับสถานการณ์หมอกควันที่เชียงใหม่ ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาเราคงได้รับทราบข่าวชวนเศร้าใจ เมื่อบรรดาอาจารย์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปอดทั้งที่ไม่มีพฤติกรรมเสี่ยง แต่ต้องมาเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายจากหมอกควันที่เกิดขึ้นถึง 3 รายด้วยกัน …★★… 10 เม.ย.นี้ หมอดูหมอเดาผู้สันทัดกรณีวิพากษ์การเมืองไว้อย่างน่าหวาดหวั่น อาจรุนแรงถึงขั้นเปลี่ยนตัวนายกฯ เลยทีเดียว อีกทั้งผู้นำจิตวิญญาณทักษิณ ก็ต้องเผชิญกับคดีหมิ่นสถาบัน ตามมาตรา 112 ซึ่งเจ้าตัวร้องขอความเป็นธรรมกับอัยการ ก็ไม่รู้จะมีหลักฐานใหม่ชิ้นใดมาหักล้าง เพราะคลิปที่นักโทษเทวดาให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศมันชัดเจนว่า “ทักษิณ…กล่าวหาให้ร้ายในหลวงรัชกาลที่ 9” อย่างไร!!!! …★★… ส่วนพรรคก้าวไกลก็ขอดิ้นคดีล้มล้างการปกครองฯ ซึ่งทีมงานเตรียมขอขยายเวลาชี้แจงศาลออกไป หลังจากที่ศาลให้โอกาส “ก้าวไกล” ชี้แจงแก้ต่างข้อกล่าวหา ก็ไม่รู้ว่าทีมงานกฎหมายพรรคสีส้มจะมีไม้เด็ดมาต่อกรต่อศาลเพื่อลบล้างความผิดอย่างไรเช่นกัน เพราะแกนนำแต่ละคนต่างพูดจาย้อนแย้งกับพฤติกรรมกัดเซาะบ่อนทำลายสถาบันมาอย่างต่อเนื่อง …★★
“เดินดงคมข่าว”
