นายกฯ ออกตัวป้อง “ทักษิณ” ให้สัมภาษณ์ไม่ได้ปลุกปั่น แต่หวังดีต่อบ้านเมือง ไม่หวั่นกระทบเสถียรภาพรัฐบาล นายกฯ บอกตัวเองเป็นกาวใจประสานพรรคร่วม ปูดอำนาจเชิงซ้อนมีหรือไม่แล้วแต่คนมอง แต่อำนาจเบ็ดเสร็จอยู่ที่ตน ลั่นยังยิ้มได้แม้บางทีกัดฟันอยู่
เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ที่อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จ.ลำปาง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมีการมองว่าการให้สัมภาษณ์ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นลักษณะคล้ายการปลุกปั่น ว่า ตนไม่ได้มองว่าเป็นการปลุกปั่น เชื่อว่าแต่ละคนมีวิธีการคิดที่แตกต่างกันไป แต่เชื่อว่านายทักษิณและคนอื่นๆ ที่ออกมาให้ข่าวในช่วงหลัง ทุกคนเป็นห่วงบ้านเมือง ซึ่งก็มีวิธีการการพูดและการตักเตือนที่แตกต่างกันไป ฝ่ายบริหารก็มีหน้าที่รับฟัง อะไรที่เหมาะสมต่อบริบท หรือสถานการณ์โดยรวมของประเทศ ก็เป็นหน้าที่ที่เราต้องรับมาพิจารณา และรับไปปฏิบัติ
เมื่อถามว่า ดูเหมือนจะกระทบชิ่งไปทางพรรคร่วมรัฐบาลด้วย จะกระทบต่อเสถียรภาพต่อพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า คนอยู่ด้วยกันก็มีทั้งเห็นด้วยและเห็นต่าง ตนในฐานะหัวหน้ารัฐบาลก็มีหน้าที่ใช้คำว่าประสานใจก็แล้วกัน หากมีเรื่องข้องใจก็มานั่งพูดคุยกัน ซึ่งตนก็พยายามที่จะต้องมีการพูดคุยกันกับทุกพรรคร่วมรัฐบาลอยู่แล้ว
สำหรับความเคลื่อนไหวของนายทักษิณ มีการมองสองมุม บางคนมองว่าช่วยดึงมวลชน แต่บางมุมมองว่ากระทบต่อภาพลักษณ์ของรัฐบาลโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยด้วย ได้มีการพูดคุยหรือพิจารณาหรือไม่ว่าจะต้องอย่างไร นายเศรษฐา ระบุว่า ตนในฐานะนายกรัฐมนตรี ได้พยายามทำตัวให้เป็นน้ำไม่เต็มแก้ว ข้อแนะนำต่างๆ บางทีสื่อมวลชนก็แนะนำแรง บางคนพูดจาไพเราะ แต่เราอย่าไปดู วิธีการนำเสนอมานี้มันรุนแรงเสียดทาน ก้าวร้าว เรามองถึงเจตนารมณ์ดีกว่า เชื่อว่าทุกท่านไม่ว่าจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลหรือพรรคฝ่ายค้าน ทุกคนอยากให้ประเทศชาติเดินไปข้างหน้าได้ แต่ทุกคนมีวิธีการทำงานที่จะไปถึงจุดมุ่งหมายแตกต่างกันไป ตนก็พยายามมองให้เป็นบวกดีกว่า อย่างที่บอกว่าท้าทายไหมก็ท้าทาย
เมื่อถามว่า ก่อนที่สภาฯ จะเปิดตรงนี้จะมีการเชิญแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลมาพูดคุยกันหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า มีการคุยมาตลอดและจะคุยต่อไป และในวันจันทร์นี้จะมีการประชุมคณะกรรมการที่ดูแลด้านเศรษฐกิจ ก็จะมีโอกาสได้เจอหลายท่านในพรรคร่วมรัฐบาล
ขณะที่บางฝ่ายในพรรคร่วมรัฐบาลแคลงใจ อาจไม่อยากให้เกิดการขุ่นใจ เพราะนายทักษิณได้พูดทำนองถึงคนในบ้านป่า ทำให้เกิดความวุ่นวาย นายกฯ กล่าวว่า เรื่องที่มีการพูดคุยหรือสนทนากัน โดยเฉพาะเรื่องที่พูดไปแล้วถ้ามีทางออกทุกฝ่ายมากกว่า และทางออกทุกฝ่ายคือปัญหาของพี่น้องประชาชน ตนขอเน้นย้ำตรงนั้นดีกว่า
ส่วนการเคลื่อนไหวลักษณะอำนาจเชิงซ้อนระหว่างนายทักษิณ กับนายกรัฐมนตรี มีผลต่อสายตาของนักลงทุนต่างชาติบ้างหรือไม่นั้น นายกฯ ระบุว่า ตนไม่พูดว่าอำนาเชิงซ้อนมีหรือไม่มี แล้วแต่คนจะไปคิดกันเอง แต่อำนาจเบ็ดเสร็จอยู่ที่ตน ทุกอย่างตนเป็นคนเซ็น
แต่หากเจออดีตนายกฯ ท่านไหน ก็จะเข้าไปหา ถ้ามีอะไรที่จะแนะนำก็น้อมรับ รวมถึงคนอื่นๆ ด้วย เพราะฉะนั้นอย่าใช้คำว่าอำนาจซ้อนจะดีกว่า เราใช้คำว่ารัฐบาลนี้รับฟังความคิดเห็นจากทุกๆ ฝ่าย
พร้อมยอมรับว่าต่างชาติก็เคยตั้งคำถามนี้ แต่เชื่อว่าตนพิสูจส์ได้ด้วยการทำงานตลอด 9 เดือนที่ผ่านมา ว่าการทำงานที่ทีเสถียรภาพที่สุด คือการที่เรารับฟังความเห็นของทุกภาคส่วน
ในช่วงท้ายผู้สื่อข่าวแซวว่านายกรัฐมนตรียังยิ้มได้ นายกฯ จึงตอบพร้อมรอยยิ้มว่า “ยังยิ้มได้อยู่ครับ บางทีก็กัดฟันเหมือนกัน”