Home FeatureSpotlight คมข่าว 9/8/67

คมข่าว 9/8/67

by admin

“ก้าวไกล” ตายตกตามกัน ไม่มีแรงใดเหนือแรงกรรม คอลัมน์ “คมข่าว” สุดสัปดาห์ 9 ส.ค.67 “เดินดงคมข่าว” ผ่าปมร้อน แดนสยามนี้ศักดิ์สิทธิ์ บ้านเมืองมีขื่อแปร มหาอำนาจชาติตะวันตกอย่า “เสือก” ที่นี่ประเทศไทย พวกคิดคตทรยศชาติสมคบคิดนักล่าอาณานิคมกัดเซาะบ่อนทำลายชาติสถาบัน พึงสำเหนียก ..00.. 7 ส.ค.67 ประวัติศาสตร์ทางการเมืองไทยจารึกไว้ให้ชนรุ่นหลังได้จดจำ ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินด้วยมติเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 “ยุบพรรคก้าวไกล” พร้อมตัดสิทธิคณะกรรมการบริหารพรรค 11 คน ในคดีอาญาแผ่นดินตามาตรา 211 กัดกร่อนบ่อนทำลายล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข…★★…ก่อนลงดาบประหาร 7 ชั่วโคตรพรรคก้าวไกล องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 ท่านได้ทำงานกันอย่างหนัก โดยนัดถกแถลงกันอย่างเข้มข้นถึง 63 ครั้ง ซึ่งองค์คณะศาลฯ มีผู้ที่มาจากสายนิติศาสตร์ 5 ท่าน และรัฐศาสตร์อีก 4 ท่าน ดังนั้นจะกล่าวอ้างเป็น “นิติสงครามไม่ได้” การพิจารณาอย่างอิสระเที่ยงธรรม ผลจึงปรากฎเป็นมติเอกฉันดังปรากฎ…★★…หลังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ “แมทธิว มิลเลอร์” ออกโรงแถลงการณ์ไม่เห็นด้วยต่อคำตัดสิน มีเนื้อหาระบุว่า คำตัดสินนี้ลิดรอนสิทธิ์ของชาวไทยกว่า 14 ล้านคนที่ลงคะแนนเสียงให้พรรคก้าวไกลในการเลือกตั้งเมื่อปี 66 งานนี้ “บักแมทธิว” คงตกเลข เพราะยังมีคนไทยอีกอย่างน้อย 25 ล้านคนไม่เห็นด้วยกับนโยบายพรรคก้าวไกลที่คิดล้มล้างการปกครอง จากการเลือกตั้งครั้งใหญ่ที่ผ่านมา “สหรัฐฯ ไม่ใช่พ่อคนไทย” กรุณากลับไปกวาดขยะที่สหรัฐฯ ให้สะอาดก่อน ค่อยมาเสือกยุ่งย่ามกิจการภายในประเทศไทยจะดีกว่า…★★…อีกหน่วยงานพวกเอ็นจีโอจอมสาระเน “ดีโพรซ มูเชนา” ผู้อำนวยการอาวุโส แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ที่มักจะออกมาเผือกตลอดระยะเวลา ซ้ำยังหอบเงินจากแดนมะกันมาประเคนให้เด็กเยาวชน 3 นิ้วให้ร้ายสถาบันมาจนติดคุกติดตะรางมาหลายราย ยืนยันไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญที่สั่งยุบพรรคก้าวไกล เป็นการตัดสินใจที่ไร้ความชอบธรรม แท้จริงแล้วพรรคก้าวไกลเสนอให้ปฏิรูปกฎหมายเท่านั้น ถือเป็นการละเมิดอย่างร้ายแรงต่อสิทธิในเสรีภาพการแสดงออก ศาลรัฐธรรมนูญควรกลับคำตัดสิน!!! …★★…องค์กรยุแหย่แทรกแซงกิจการภายในของนานาประเทศ คุณมีดีอะไรถึงกล้ามาเสนอให้ศาลไทยกลับคำตัดสิน กระบวนการยุติธรรม และกฎกติกาวัฒนธรรมของประเทศต่างๆ ย่อมเป็นเอกสิทธิ์ของประเทศนั้นๆ คุณกินขนมปัง คนไทยกินข้าว คุณจับมือทักทายกอดจูบ ส่วนคนไทยเจอหน้ากันก็ยกมือไหว้สวัสดี ดังนั้นจะเอาวัฒนธรรมของพวกคุณมาแทรกแซงวัฒนธรรมไทยเราไม่ได้ พูดง่ายๆ สั้นแบบไทยๆ ก็คือ “อย่าเสือกประเทศกู” เพราะบ้านเมืองนี้มีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นเครื่องยึดเหนี่ยมจิตใจ แผ่นดินนี้เป็นที่ยืนที่นอนให้คนไทยอยู่กินอย่างอบอุ่นก็ด้วยพระบารมีของบูรพกษัตริย์ ไม่ตกเป็นเมืองขึ้นของไอ้พวกฝรั่งนักล่าอาณานิคม ก็เพราะพระปรีชาสามารถกษัตริย์ไทยทั้งสิ้น…★★…

“ยิ่งยุบ…ยิ่งโต” ความเห็นของด้อมส้มคนก้าวไกล สิ่งเหล่านี้จะเป็นจริงหรือไม่ขึ้นอยู่กับคนไทยว่าจะไประเบิดอารมณ์ในคูหาการเลือกตั้งสมัยหน้าอย่างไร??? “เดินดงคมข่าว” ถูกมองว่าเป็นพวกไดโนเสาร์ ก็ไม่ใช่ปัญหาที่จะทำให้เราหยุดความคิดปกป้องชาติสถาบันอันเป็นที่รักเคารพได้ ทว่าด้อมส้มทั้งหลายควรศึกษากฎหมายรัฐธรรมนูญ กฎกติกาให้ดี ถ้ายังเป็นพลเมืองไทย คุณจะแหกกฎกติกาเหล่านี้ไปไม่ได้ และต้องศึกษาคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้ถ่องแท้ ซึ่งการตัดสินเมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมานั้น มีผลผูกพันธ์องค์กรที่เกี่ยวข้อง ทั้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หรือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทจุริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะต้องทำหน้าที่ไล่บี้ไล่เช็ด “ผู้ล้มล้างการปกครองฯ” ในข้อหา “ขบฎ” ซึ่งอดีตกรรมการบริหารก้าวไกล และ สส. จะได้รับโทษตามกฎหมายที่แตกต่างกันไป พูดง่ายๆ ก็คือจะต้องถูกดำเนินคดีอาญาซ้ำอีก นั่นย่อมหมายถึง สส.อีก 44 รายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการชุมชุน การเป็นนายประกันให้กับผู้ต้องหาคดีหมิ่นสถาบัน มาตรา 112 รวมถึงการเสนอร่างกฎหมายยกเลิกมาตรา 112 ที่ผ่านมาด้วย ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นการ “ประหาร 7 ชั่วโคตร” ก็ว่าได้ ส่วนผู้ที่ออกมาด้อยค่าศาลรัฐธรรมนูญตามติ่งแห่งความอยากกระสัน นัยว่า “การตัดสินก้าวไกลมีธง” ควรกลับไปศึกษารายละเอียดบริบทแห่งความผิดของบุคคลที่เกี่ยวข้องให้ถ่องแท้เสียก่อน อย่าด่วนสรุป เพราะความรัก ศรัทธา โกรธ หลง …★★…ต้องขอแสดงความยินดีกับ เสี่ยเท้ง “ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ” ทายาทรุ่นที่ 3 ก้าวสู่เก้าอี้หัวหน้าพรรคประชาชน หลายคนบอกว่าหน้าตาละม้ายคล้าย “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ผู้นำจิตวิญญาณด้อมส้ม น่าสนใจสำหรับพรรคประชาชน (People’s Party)” คำขวัญประจำพรรคคือ “โดยประชาชน เพื่อประชาชน สร้างประเทศไทยที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน” ซึ่งก่อตั้งมาจากกลุ่ม 10 มกราคม 2526 และได้ถูกยุบไปเมื่อปี 2532 เพื่อไปรวมกับพรรคสามัคคีธรรม ทำให้เกิดคำถามว่าพรรคที่ถูกยุบไปแล้วจะนำกลับมาใช้ได้หรือไม่?? แต่ที่น่าสนใจกว่านั้น ก็คือ “ท่าทีจุดยืนของหัวหน้าพรรคประชาชน ยังคงยืนยันว่าสิ่งที่อนาคตใหม่-ก้าวไกลดำเนินการมาไม่มีอะไรผิดพลาด และยืนยันจะเดินหน้าสานต่อเจตนารมณ์ต่อ โดยโฟกัสไปที่การแก้ไขมาตรา 112” และหากถอดความหมายของพรรคประชาชนก็จะพบว่า แท้จริงคือการรีเทิร์นของ “พรรคคณะราษฎร์” ฉากทัศน์ที่เกิดขึ้นจึงแจ่มชัดยิ่ง นี่คือก้าวย่างที่ต่อสู้กันมานับแต่ปี 2475 กระนั้นหรือ???…★★…

มารยาททางการเมือง ถูกหยิบยกมาวิพากษ์กันอย่างร้อนแรง หลังจากมีคลิปวิดีโอเผยแพร่งานพระราชทานเพลิงศพมารดา “เศรษฐา ทวีสิน” นายกฯ บิ๊กการเมือง อดีตนายกฯ บิ๊กข้าราชการ หลั่งไหลไปร่วมแสดงความอาลัยอย่างล้นหลาม ประเด็นอยู่ที่ “ผู้นำจิตวิญญาณด้อมส้ม” ปิยบุตร แสงกนกกุล เสี่ยป๊อกยับโยงเป็นประเด็นการเมือง โดยเฉพาะการเดินทางไปร่วมงานของลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี วิพากษ์ไปเรื่อยไม่เว้นแม้แต่งานขาวดำ มารยาททางการเมือง พื้นฐานแห่งความเป็นมนุษย์สามัญสำนึกเสี่ยป๊อกควรให้เกียรติผู้วายชนม์ เบาได้เบา เว้นวรรคบ้าง อะไรๆ ก็โยงการเมืองไปเสียหมด ออกจากกะลาแลนด์ดูโลกแห่งความเป็นจริงเสียบ้าง อนาคตพรรคในอุดมการณ์จะได้ก้าวเดินต่อไปให้ไกลกว่านี้ ไม่ใช่ก้าวพลาด ก้าวล่วง ก้าวมั่วจนฉิบหายจวบวันนี้…★★…ปิดท้ายที่เสี่ยเหลี่ยม “นช.ทักษิณ ชินวัตร” ที่มีภาพวิดีโอเหล่มองข้ามเสา โฟกัสลุงตู่จนเสียอาการ ซ้ำยังส่งลูกสาวคนสวยไปไหว้สวยๆ องคมนตรี และภริยา ส่วนตัวเสี่ยเหลี่ยมก็เดิน “เม้มปาก” ยกมือไหว้สวัสดีกันและกันกับลุงตู่ ภาษากายชี้ชัดว่า การเม้มปากนั้น ใช่ว่าจะเป็นผู้ที่โกหก แต่อาจตกอยู่ในสถานการณ์ตื่นเต้นตกใจ เครียดกับเหตุการณ์เฉพาะหน้าที่ตัวเองเผชิญอยู่แค่นั้น แต่ในทางการเมืองย่อมส่งผลถึงด้อมแดง-ด้อมเหลืองที่อาจจะขุ่นข้องหมองใจมิใช่น้อย เพราะที่ผ่านมาทั้ง 2 สี สู้รบกันเสียเลือดเนื้อ สิทธิเสรีภาพกันไปมากมาย หากแต่อดีตผู้นำทั้งสองเขาลืมล้างทิ้ง ซึ่งอดีตวันเก่าก่อนไปเสียแล้ว นี่คือ “ความจริงที่แสนจะขมขื่น” หรือไม่ ใครรู้ตอบที หรือจะต้องรอให้ถึงวันที่ 14 ส.ค.67 ก่อนว่า เราจะมีนายกฯ ที่ชื่อเศรษฐา ทวีสิน หรือต้องเลือกนายกฯ กันใหม่ มันก็แค่นั้น สวัสดี

“เดินดงคมข่าว”

Related Articles

Leave a Comment