Home Thailand ชำแหละทรัมป์ 2.0 ‘หอการค้าไทย’ หวั่นกำแพงภาษีฉุดกำลังซื้อ

ชำแหละทรัมป์ 2.0 ‘หอการค้าไทย’ หวั่นกำแพงภาษีฉุดกำลังซื้อ

by admin

“ประธานหอการค้าไทย” ชำแหละนโยบาย “ทรัมป์ 2.0” หวั่นกำแพงภาษีฉุดกำลังซื้อ คาดไทยอาจโดนสองเด้ง ทั้งขึ้นภาษีนำเข้า-ถูกบังคับให้นำเข้าจากสหรัฐมากขึ้น

เมื่อวันที่ 21 ม.ค.68 นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานคณะกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยว่า จากกรณีนโยบาย “ทรัมป์ 2.0” จะมีทั้งผลบวกและลบที่จะเกิดขึ้นในไทย แต่ตนมองว่ายังเร็วเกินไปที่จะประเมิน เบื้องต้นจะเกิดการย้ายฐานการผลิต โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนจากประเทศจีน เพื่อต้องการหาตลาดทดแทนในการส่งออก ซึ่งประเทศไทยได้รับอาณิสงส์ดังกล่าว อาทิ การเข้ามาตีตลาดรถไฟฟ้าของจีน เป็นต้น

ขณะที่ผลกระทบอีกด้านในรูปแบบของกำลังซื้อที่เกิดจากนโยบายการขึ้นกำแพงภาษี ซึ่งขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าทรัมป์ จะมีการพิจารณาอย่างไร ซึ่งจะมีผลกระทบทั้งภาคการส่งออก และสินค้ารายเซกเตอร์ ที่อาจถูกทรัมป์จับตามากขึ้น ดังนั้นไทยอาจโดนสองเด้ง ทั้งการขึ้นภาษีนำเข้า และไทยอาจถูกบังคับให้นำเข้าจากสหรัฐมากขึ้น เหล่านี้จะกระทบต่อความสามารถแข่งขันของธุรกิจไทย ที่อาจกระทบได้ ซึ่งปัจจุบันไทยส่งออกไปสหรัฐอันดับ 1 ที่ 18% หรือ 1 ล้านล้านบาท ส่วนตัวมองว่า ประเทศเวียดนาม และไทย จะได้ผลดีจากกรณีดังกล่าว

ขณะที่ปัจจัยลบการค้าชายแดน ในปีนี้ทางหอการค้าประเมินตัวเลขว่า จะมีสินค้าจีนทะลักเข้ามา มูลค่า 50,000 ล้านบาท ซึ่งทางรัฐบาลต้องคอยสอดส่วง และเปิดโอกาสให้ Free & Fair trade

ทั้งนี้ ตนเห็นว่า ทีมเจรจาที่รัฐบาลจัดตั้งควรมีตัวแทนจากภาคเอกชนเข้าร่วม เพราะอยู่ในสนามการค้า และมีข้อมูลเชิงลึกที่สะท้อนปัญหาที่แท้จริงให้รัฐบาลใช้เป็นข้อมูลสำคัญในการวางแผนรับมือ พร้อมเจรจาต่อรองในสินค้าอื่นด้วย นอกจากนั้น เอกชนไทยส่วนหนึ่งลงทุนสหรัฐฯ ด้วย ดังนั้น หากนำเอกชนมาช่วยให้ข้อมูลในทีมเจรจาจะเป็นประโยชน์ต่อภาครัฐ ทั้งนี้ ภาคเอกชนที่ควรมีตัวแทนในทีมเจรจาควรอยู่ในกลุ่มธุรกิจสินค้าส่งออกหลัก เช่น อาหารและเกษตรกรรม อัญมณี ยางพารา อิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์ เนื่องจากกลุ่มเหล่านี้มีความเสี่ยงสูง หากสหรัฐฯ ใช้มาตรการกีดกันทางการค้า เช่น การขึ้นภาษีนำเข้า หรือกำหนดมาตรฐานที่เข้มงวดมากขึ้น จะส่งผลโดยตรงต่อผู้ประกอบการในภาคนี้เป็นหลัก

Related Articles

Leave a Comment