“คมข่าว” ACN Hot News 21 มีนาคม 2567 “เดินดงคมข่าว” เคาะคีย์บอร์ดวิพากษ์ความเคลื่อนไหวสถานการณ์บ้านเมือง ที่เวลานี้คนหาเช้ากินค่ำบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า “แย่” เศรษฐกิจชักหน้าไม่ถึงหลัง ท่าน ส.ส.ผู้ทรงเกียรติ ยังคงทุ่มเถียงถกงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 กันฝุ่นตลบ ซึ่งการพิจารณาร่างประมาณรายจ่าย เริ่มตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.-13 มี.ค.67 พิจารณาแล้วเสร็จเร็วกว่าที่กำหนดไว้ 2 สัปดาห์ โดยมีการปรับลดงบประมาณลง 9,200 กว่าล้านบาท จากวงเงินงบประมาณรวมทั้งสิ้น 3.48 ล้านล้านบาท …▶▶… ธุรกิจก่อสร้างกำลังจะพัง เพราะหน่วยงานราชการพากันชักดาบ ไม่สามารถจ่ายเงินให้กับผู้รับเหมาได้ ขณะที่แบงก์ที่ปล่อยเงินกู้ผู้รับเหมา ก็ได้รับผลกระทบแล้วเช่นกัน เพราะบรรดาผู้รับเหมาที่ทำมาหากินกับการก่อสร้างภาครัฐ เริ่มผิดนัดชำระกันทั่วหน้า อันมีผลพวงมาจากหน่วยงานรัฐไม่มีเงินจ่ายค่างวดงาน ด้วยเหตุผลต้องรอให้งบประมาณรายจ่ายประจำปี 67 ตกลงมาเสียก่อน ส่วนผู้รับเหมาที่ทำงานล้าช้า แม้จะได้รับการผ่อนปรนจากการเยียวยาช่วงการแพร่ะระบาดไวรัสโควิด-19 ก็ยังถูกราชการปรับจนไม่เหลือกำไรให้เก็บกิน แต่เพลาราชการติดเงินผู้รับเหมา ดูเหมือนจะไปฟ้องร้องหาความอะไรกับราชการไม่ได้ อย่างนี้เรียกว่า “อยุติธรรม” ที่แสนจะเหี้ยมโหด…▶▶
▶▶…ดราม่าภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่บรรจงสร้างโดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เปิดฉากบู๊ล้างผลาญไม่มีใครยอมใคร “ฆ่าน้อง..ฟ้องนาย…ขายเพื่อน” ครบทุกมิติ “เดินดงคมข่าว” ยังมิอาจคาดเดาได้ว่า ใครคือ “พระเอก และใครคือดาวร้าย หรือพญามาร” ระเบิดตกเป็นตำบลกระสุนที่ สตช. ไม่เว้นแต่ละวัน ร้อนถึงทำเนียบรัฐบาล “เศรษฐา ทวีสิน” นายกฯ ต้องมีบัญชาเรียก 2 ผู้ยิ่งใหญ่มาหย่าศึกเด้งเข้ากรุสำนักนายกฯ อย่างเร่งด่วน ทั้ง บิ๊กต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และบิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. โดย 2 นายพลสีกากี กอดคอกันแถลงข่าวหย่าศึกแบบมีเงื่อนไข ถอนคดีฟ้องร้อง และให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.เช็กบิลคดีบิ๊กโจ๊กแทนตำรวจ ส่วนเส้นเงิน 43 เส้นที่ลูกน้องบิ๊กโจ๊กแฉโยงถึง นายพล “ต” จะยุติไปด้วยหรือไม่ “พล.ต.อ.วินัย ทองสอง” หนึ่งในกรรมการกลางที่นายกฯแต่งตั้งตรวจสอบ 2 บิ๊กนายพลเป็นระยะเวลา 60 วัน ยืนยันอย่างหนักแน่นว่า… มั่นใจทำความจริงปรากฏได้ เพราะมีวิธีรวบรวมพยานหลักฐาน โดยไม่ต้องดูสำนวนคดี แถมรับรอง “ไม่มีมวยล้มแน่นอน” ใครทำผิดต้องได้รับผิด ทำชั่วต้องได้รับกรรมชั่ว “เดินดงคมข่าว” จะคอยดูผลตรวจสอบ จะสมราคาคุยหรือไม่??? เพราะก่อนหน้านี้ ผลการตรวจสอบคอมมานโดบุกจับบิ๊กโจ๊กก็ยังเงียบเป็นเป่าสากจวบจนทุกวันนี้…▶▶
▶▶…หมอกควัน PM2.5 ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนภาคเหนืออย่างแสนสาหัส “อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร – สมชาย วงศ์สวัสดิ์” และ “เศรษฐา ทวีสิน” ร่วมวงเปิดข้าวกันที่เชียงใหม่ พูดเป็นต่อยหอยจะแก้ปัญหาคืนสุขให้ชาวบ้าน ส่วน นายกฯ รถแห่ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ผู้หิวแสงกลัวน้อยหน้าลงทุนสวมชุดผจญเพลิงดับไฟป่า ซ้ำยังปากเปราะเปิดศึกกับท่านผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ถูกตอกมาหน้าหงายไม่เป็นท่า นักการเมืองขี้โม้ไอเดียบรรเจิดอย่างพิธา คิดการใหญ่คุยเฟื่องแนะให้ “ดูรูปทรงไฟ” เข้าถึงจุดไฟไหมให้เร็วที่สุด เชื่อว่าจะสามารถสร้างนวัตกรรมดับไฟป่าจนเป็นภาคบริการส่งออกขายให้ต่างประเทศ สร้างเม็ดเงินก้อนโตเข้าประเทศไทย “เดินดงคมข่าว” ได้ฟังก็หมดคำสิเว้า ไม่รู้หัวสมองพิธา มีกลไกลรอยหยักกี่ชั้นจึงคิดอ่านได้มากมายถึงเพียงนี้ มีปากช่างเจรจาเหลือ….ไม่รู้ว่าพิธาคงมีวิชชาแก่กล้าฝึก “เพ่งกสิณ” จากฤาษีตาไฟจากสำนักไหน จึงดูรูปไฟได้เช่นนั้น สำคัญแต่ว่า นายกฯ รถแห่ รู้จักหรือพูดคุยกับ “ลม” ได้ไหม ถ้าไม่ได้จะพากันถูกไฟป่าย่างสดตายโหงกันยกทีม …▶▶
▶▶…ไม่รู้ว่างานนี้จะเป็นปฏิบัติการ “ฟอกขาวให้นายกฯ ปู หรือไม่???” เมื่อ “ภูมิธรรม เวชยชัย” เสี่ยอ้วน รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ นำคณะรัฐมนตรี ครม.สัญจร ไป จ.สุรินทร์ รุดตรวจสอบโกดังข้าว 2 สต๊อกในพื้นที่ จ.สุรินทร์ ที่เก็บมา 10 ปี ‘ไม่เน่า-กินได้-ขายได้’ และจะเร่งตรวจสต๊อกอื่นๆ นำข้าวออกขาย สำหรับสต๊อกข้าวดังกล่าวเป็นข้าวจากโครงการรับจำนำข้าวสมัย “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ที่ถูกศาลพิพากษาในคดีทุจริต โดยนายกฯ ปู มีคดีนี้ติดตัวทำให้ต้องลี้ภัยอยู่ในต่างแดน เสี่ยอ้วนบอกกับสื่อมวลชนว่า ได้ลองนำข้าวในสต๊อกมาหุงและกิน ข้าวยังมียาง หอมอร่อย ไม่เน่า ไม่เสีย แม้จะมีสีออกเหลืองแล้วก็ตาม จมูกข้าวยังสมบูรณ์ “เดินดงคมข่าว” ไม่แน่ใจข้าวมีจริงไหม…แต่ที่แน่ๆ นักการเมืองโกงแต่ได้ดีนี่ซิ ไม่มียาง(อาย) แน่ๆ และนี่คือสัญญาไฟเขียวส่งถึง “อดีตนายกฯ ปู” ปิ๊กบ้านตามพี่ชายหรือไม่ คงต้องรอลุ้นติดตามกันต่อไป…◆◆
“เดินดงคมข่าว”