เป็นไปตามคาด! สภาฯ มีมติเห็นชอบรับร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย 2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้าน ฉลุยผ่าน “วาระแรก” อย่างท่วมท้น ด้วยคะแนนเสียง 322 เสียง ต่อ 158 เสียง พร้อมตั้ง กมธ.วิสามัญฯ 73 คน แปรญัตติ 30 วัน“แพทองธาร” ย้ำขอให้เชื่อมั่น รัฐบาลเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจ ลดรายจ่าย-เพิ่มรายได้ ปชช. ยันใช้เม็ดเงินให้เกิดประโยชน์สูงสุด
เมื่อวันที่ 31 พ.ค. ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ มีวาระพิจารณาเรื่องด่วน ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ วงเงิน 3,780,600 ล้านบาท เพื่อชดใช้เงินคงคลัง จำนวน 123,541 ล้านบาท ภายหลังฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลอภิปรายกันมา 4 วัน
ต่อมาเวลา 16.00 น. นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้เรียกสมาชิกเข้าห้องประชุมเพื่อลงมติวาระแรก โดยที่ประชุมมีมติ
เห็นชอบ 322 เสียง
ไม่เห็นชอบ 158 เสียง
งดออกเสียง 0 เสียง
ไม่ลงคะแนนเสียง 2 เสียง
ทำให้ที่ประชุมมีมติรับหลักการวาระแรก ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังที่ประชุมมีมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายฯ ว่า ในนามของรัฐบาลขอบพระคุณประธานและสมาชิกผู้ทรงเกียรติทุกท่านที่ได้ร่วมกันพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2569 ที่รัฐบาลนำเสนอด้วยความตั้งใจ รัฐบาลตระหนักดีว่าการจัดทำงบประมาณครั้งนี้ดำเนินการภายใต้ข้อจำกัดของวงเงินงบประมาณรายจ่าย มาตรการกีดกันทางการค้าของประเทศเศรษฐกิจหลัก ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงสภาวะเศรษฐกิจโลก ที่มีปัจจัยรอบด้านที่ส่งผลกระทบความไม่แน่นอนสภาวะเศรษฐกิจในประเทศซึ่งมีผลกระทบมากมายทุกวันนี้ เราจะสามารถขับเคลื่อนประเทศให้ไปต่อได้ ด้วยนโยบายต่างๆ ที่รัฐบาลเสนอต่อสภาฯ
“เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่างบประมาณที่เสนอไปจะสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องคนไทยทุกคนได้ รัฐบาลมุ่งมั่นตั้งใจใช้งบประมาณเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจตามนโยบายที่แถลงไว้ โดยคำนึงถึงการจัดลำดับความสำคัญของงบประมาณเพื่อรองรับปัญหาเร่งด่วน เสริมสร้างศักยภาพทุนมนุษย์ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สนับสนุนการพัฒนาตามแนวทางยุทธศาสตร์ชาติอย่างต่อเนื่อง”
การจัดทำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2569 มุ่งเน้นฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ลดความเหลื่อมล้ำในทุกมิติ และสร้างโอกาสให้กับประชาชนทุกกลุ่มให้เข้าถึงทรัพยากรที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม รวมถึงมุ่งเน้นรักษาวินัยการเงินการคลังของประเทศตามกรอบที่กฎหมายกำหนดไว้ สำหรับข้อคิดเห็น ข้อสังเกต ข้อเสนอแนะต่างๆ ของฝากคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญที่จะตั้งขึ้น นำไปประกอบการพิจารณาอย่างละเอียดและครบถ้วนต่อไป
ทั้งนี้ ท่ามกลางสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งการเมือง สภาวะเศรษฐกิจโลก ไม่ใช่กระทบแค่ประเทศเรา แต่เป็นทั่วโลก ตนได้คุยกับผู้นำหลายประเทศ เจอผลกระทบหลายด้านหลายมุมแตกต่างกัน มั่นใจว่าทุกประเทศที่จะช่วยกันได้จะช่วยกันเต็มที่ การเปลี่ยนแปลงทุกวันนี้เป็นเรื่องที่ท้าทายในการกำหนดทิศทางหรือหาข้อสรุปอย่างใดอย่างหนึ่งให้เป็นคำตอบที่ชัดเจนได้ในวันนี้
“แต่สิ่งหนึ่งที่ดิฉันมั่นใจนั่นก็คือ รัฐบาลชุดนี้จะทุ่มเทแรงกายแรงใจในการทำทุกๆ นโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้สำเร็จเป็นรูปธรรม เราจะลดรายจ่ายของพี่น้องประชาชน เพิ่มรายได้ แล้วก็ขยายโอกาส และจะใช้เม็ดเงินจาก พ.ร.บ.งบประมาณฯ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อพี่น้องประชาชน”

“ดิฉันทราบดีเหมือนที่ทุกท่านทราบว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ทราบดีว่าพี่น้องประชาชนก็ไม่ได้ส่งเรามาทำเรื่องง่ายๆ รัฐบาลทำหน้าที่ในการบริหาร ฝ่ายค้านเป็นผู้ตรวจสอบ ถ้าเราทั้งสองมุ่งเน้นผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก เป็นใจความสำคัญ ดิฉันมั่นใจเป็นอย่างยิ่งค่ะว่าเราจะสามารถทำให้ประเทศผ่านวิกฤติไปได้ แล้วก็สามารถทำให้เห็นผลสำเร็จร่วมกันได้แน่นอน”
โดยในที่ประชุมมีการตั้งคณะ กมธ.วิสามัญฯ จำนวน 73 คน แบ่งเป็น ครม. 18 คน สส. 55 คน แบ่งเป็น สส.พรรคร่วมรัฐบาล 35 คน (เพื่อไทย 16 /ภูมิใจไทย 8/รวมไทยสร้างชาติ 4 /กล้าธรรม 3 /ประชาธิปัตย์ 3 /ชาติไทยพัฒนา 1 /ประชาชาติ 1) สส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน 19 คน (พรรคประชาชน 16 / พลังประชารัฐ 2 / ไทยสร้างไทย 1) เพื่อแปรญัตติ 30 วัน
จากนั้น ประธานในที่ประชุม ได้แจ้งนัดประชุม กมธ. วิสามัญฯ ร่างงบประมาณ 2569 นัดแรกวันที่ 9 ก.ค. 2568 เวลา 13.00 น. ก่อนให้เจ้าหน้าที่อ่านพระบรมราชโองการปิดสมัยประชุม และสั่งปิดประชุมในเวลา 17.00 น.